แฟนบอลเวลส์บ้าบอลเข้าเส้น ลงทุนขับรถยนต์ไฟฟ้า 5,000 ไมล์ไปดูการแข่งขันฟุตบอลของทีมรักที่กาต้าร์ บอกเวลส์เข้ารอบมาได้ พวกเขาก็ทำได้
World Cup: Wales fans driving to Qatar in electric car https://t.co/4WyhEGNSXr
— BBC News (World) (@BBCWorld) October 27, 2022
การเดินทางของกลุ่มแฟนบอลได้รับแรงเชียร์จากเวนย์ เฮนเนสซี่ นายทวาร, ดาเนี่ยล เจมส์ ปีกดาวรุ่ง, จอห์นนี่ วิลเลี่ยม แข้งแนวรับและแกเร็ธ เบล กัปตันทีม หลังมีข่าวว่ากองเชียร์กลุ่มหนึ่งจะเดินทางด้วยกันด้วยรถพลังงานไฟฟ้าตามไปเชียร์ทีมมังกรแดงที่ ฟุตบอลโลก ซึ่งกินระยะทางไกลถึง 5,000 ไมล์
สก็อตต์ ยัง อดีตนักเตะของคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ร่วมด้วยเพื่อนของเขา นิค สมิธ, ฮูว เลฟริน วอลเตอร์ส และ วอลเตอร์ เพ็นเนล เลือกที่จะเดินทางจากตอนใต้ของเวลส์โดยรถยนต์ไฟฟ้าในการผจญภัยข้ามทวีป
ทั้งสี่หนุ่มเลือกออกเดินทางจากหน้าสมาคมฟุตบอลของเวลส์ที่วาล รีสอร์ทในกลามอร์แกน ด้วยรถ MG4 ที่ตั้งชื่อให้ว่ามอร์ริส ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม ท่ามกลางความสงสัยว่าพวกเขาจะไปทันเกมนัดแรกของทีมชาติเวลส์ได้หรือไม่
“เรารู้ว่าคนส่วนใหญ่คงคิดว่าพวกเรามันบ้า เราเห็นแกเร็ธ เบลเข้าในนั่งในที่คนขับแล้วก็ทำหน้าตาไม่เชื่อว่าพวกเราจะทำสิ่งนี้สำเร็จ” นิคพูด
“แต่เราเชื่อมั่นในมอร์ริสและเราพร้อมจะท้าทายไปด้วยกัน เราขับมันไปด้วยความรักที่มีต่อฟุตบอล และแรงบันดาลใจที่เป็นบวกว่ารถไฟฟ้านี่ล่ะที่จะนำพาผู้คนและโลก”
I do not have plans to travel to Qatar to watch England play in World Cup next month. #HumanRights #England #WorldCup2022 #Qatar pic.twitter.com/2oaq9CYhPX
— HRH Prince William, Prince Of Wales ➐ (not him) (@HRH_William_) October 27, 2022
“มันคงมีอุปสรรคเพียบเลยบนถนนนั่น แต่เราได้รับการสนับสนุนมากมายที่เบื้องหลังของเรา เราแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะไปกาต้าร์และเข้าร่วมกับแฟนบอลคนอื่นๆ ที่บินไป ในการสนับสนุนทีมกับฟุตบอลโลกครั้งแรกในรอบ 64 ปีของพวกเขา”
“ถ้าเวลส์หักปากกาเซียนไปบอลโลกได้ พวกเราก็ทำได้เหมือนกันล่ะ” นิคกล่าวอย่างเชื่อมั่น
ทีมชาติเวลส์เคยเข้าร่วมฟุตบอลโลกเพียงครั้งเดียวในปี 1958 ที่สวีเดน โดยอยู่ร่วมในกลุ่มเดียวกันกับเจ้าภาพ สวีเดน, ฮังการีและเม็กซิโก แถมยังผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์ได้ด้วยอันดับ 2 ของกลุ่ม จากการเสมอทั้ง 3 เกมและเพลย์ออฟชนะฮังการี 2-1 ก่อนจะถูกเขี่ยตกรอบโดยบราซิลด้วยสกอร์เพียงแค่ 1-0 และเป็นบราซิลที่คว้าแชมป์ไปครองในตอนท้ายที่สุด
ฟุตบอลโลกครั้งนี้เวลส์อยู่ในกลุ่ม B ร่วมกับอังกฤษ, สหรัฐอเมริกาและอิหร่าน.