แมนฯ ยูไนเต็ดและเชลซีมีลุ้นคว้าวิคเตอร์ โอซิมเฮ็น กองหน้าดาวยิงของนาโปลี หลังนักเตะเลือกพรีเมียร์ ลีก ในลำดับที่มาก่อนบิ๊กบุนเดสลีกา หรือ บิ๊กลีก เอิง
🚨 Napoli owner Aurelio De Laurentiis has priced Victor Osimhen at €150m. 🇳🇬
(Source: @Gazzetta_it) pic.twitter.com/trKTi7msBz
— Transfer News Live (@DeadlineDayLive) April 20, 2023
ดาวยิงชาวไนจีเรียทำไป 26 ลูกจากการลงเล่น 31 เกมให้กับนาโปลี พาทีมจ่อคว้าสคูเด็ตโต้สมัยแรกในรอบ 33 ปี และพาทีมเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในซีซั่นนี้ ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับสารพัดบิ๊กทีม ไม่ว่าจะเป็นแมนฯ ยูไนเต็ดและเชลซีของศึกพรีเมียร์ ลีก บาเยิร์น มิวนิคของบุนเดสลีกา และปารีส แซงต์-แชร์กแมงของลีก เอิง อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่านักเตะวัย 24 ปีจะให้น้ำหนักความสนใจไปที่พรีเมียร์ ลีก เมืองผู้ดีมากกว่าอีกสองลีกที่เหลือ
สัญญาของโอซิมเฮ็นกับนาโปลีที่เซ็นไว้ต้อนที่ย้ายมาจากลีลล์ หลังช่วยทีมคว้าแชมป์ลีก เอิง 2020 ยังเหลืออีก 2 ฤดูกาลในเมืองเนเปิ้ล แต่ความร้อนแรงของการจบสกอร์ทำให้มีข่าวว่าทีมใหญ่พร้อมเจรจากับนาโปลีในการทุ่มเงินแย่งลายเซ็นมาครอง
ความเป็นไปได้ของการย้ายตัวไม่ใช่เรื่องไร้สาระ โดยมีค่าตัวที่นาโปลีพร้อมรับข้อเสนอในราคา 150 ล้านยูโร จึงมีเฉพาะทีมเศรษฐีเท่านั้นสามารถเสนอตัวได้
โอซิมเฮ็นที่เผยตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้วว่าเขาฝันที่จะได้เล่นพรีเมียร์ ลีกในสักวัน ดูจะเป็นข้อได้เปรียบของทีมจากเกาะอังกฤษที่อยากได้ตัวนักเตะ
“ผมคิดว่าการได้เล่นกับทีมในลีกท็อป 5 ของโลกเป็นอะไรที่มันน่ามหัศจรรย์สำหรับผม”
“คนทั่วโลกบอกว่าพรีเมียร์ ลีกคือลีกที่ดีที่สุด เป็นลีกที่แข็งแกร่งสุดๆ แต่ว่าตอนนี้ผมก็อยู่ในลีกที่ดีที่สุดลีกหนึ่งของโลกนะ ลีก อิตาเลี่ยน เซเรีย อา นี่ไง” โอซิมเฮ็นบอก
Man United need a striker – but would they be willing to spend that much? https://t.co/06uXVT1T7X
— FourFourTwo (@FourFourTwo) April 21, 2023
“ผมทำงานหนักเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถคว้าโอกาสตามฝันไปเล่นพรีเมียร์ ลีกในสักวัน แต่ก็อย่างที่ผมบอกแลหะ มันต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอน และผมต้องทำงานในการรักษาโมเมนตัมการเล่นที่กำลังดีอยู่นี้ต่อไป” กองหน้าไนจีเรียบอก
วิคเตอร์ โอซิมเฮ็น เกือบเป็นฮีโร่ในเกมที่เจอยูเวนตุสเมื่อวันอาทิตย์ เพียงแต่ว่าลูกยิงในนาที 80 กว่าเฉียดเสาไปไม่กี่นิ้ว และทีมก็โชคดีที่รอดจากการเสียประตูให้เจ้าบ้านจากวีเออาร์ถึงสองครั้งสองครา ก่อนที่สุดท้ายเจียโคโม่ ราสปาโดรี่จะมายิงในช่วงทดเจ็บพาทีมเขยิบใกล้แชมป์ลีก อิตาลี ครั้งแรกตั้งแต่ปี 1990.