โรแบร์โต้ มันชินี่ ได้ร้องขอให้ลูกทีมอัซซูรี่พยายามเล่นอย่างสนุกสนาน ตอนที่จะเจอกับออสเตรียในคืนนี้เพราะมันคือเกมที่เล่นในเวมบลีย์ ซึ่งเป็นเกมที่ทั้งสองทีมจะสามารถสร้างประวัติศาสต์หน้าใหม่ให้กับประเทศได้ด้วยกันทั้งคู่
🇮🇹 Italy getting ready for Wembley 💪#EURO2020 pic.twitter.com/q7np6Fc8JJ
— UEFA EURO 2020 (@EURO2020) June 25, 2021
อิตาลีที่ชนะรวดมาใน 3 เกมแรก ยิงไป 7 ลูกและไม่เสียประตูเลย เป็นฝลงานดีที่สุดในการเล่นทัวร์นาเม้นท์รอบสุดท้าย พร้อมทำสถิติชนะติดต่อกันมา 11 เกม และแตะสถิติไม่แพ้ใครต่อเนื่องยาวนาน 30 เกมเท่ากับที่กุนซือแชมป์โลกสองสมัย วิตตอริโอ้ ปอซซ่าเคยทำไว้ในทศวรรษ 1930 ดังนั้นถ้าอิตาลีชนะ มันก็จะเป็นสถิติใหม่ที่จะเกิดขึ้น
“ผมชอบทุกเวลาที่เป็นโค้ชทีมชาติ(อิตาลี) และยังคงสนุกที่จะทำมันต่อไป ผมขอบใจนักเตะทุกคนในการที่พวกเขาปล่อยให้ผมสนุกกับประสบการณ์ช่วงนี้ด้วย” มันชินี่บอก
เช่นเดียวกัน หลังจากที่สามารถเข้าถึงรอบน็อคเอ้าท์ของศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปได้เป็นครั้งแรก ชัยชนะก็จะเป็นประวัติศาสตร์ไปเรื่อยๆ เหมือนกัน
เกมที่เวมบลีย์นั้นทีมอิตาลีถูกมองเป็่นต่อค่อนข้างมากจากผลงานรอบแรก และสถิติล่าสุด ซึ่งมันชินี่ได้บอกกับลูกทีมว่าการได้เล่นที่เวมบลีย์เป็นอะไรที่น่ายินดี เพราะในชีวิตนักเตะ บางคนอาจจะไม่เคยมีโอกาสได้เล่นที่เวมบลีย์เลยตลอดการเป็นนักฟุตบอล
Italy's prime minister wants the #Euro2020 final to be moved from Wembley Stadium because of Britain's rising #COVID19 infections https://t.co/ckyobBuEls
— Sky News (@SkyNews) June 21, 2021
“มันเป็นสนามที่พิเศษ และผมอยากไปที่นั่น เล่นให้ออกมาเยี่ยม เพราะสนามแห่งนั้นคู่ควรกับการได้สร้างบรรยากาศเกมที่เหมาะสม” โรแบร์โต้ มันชินี่กล่าว
“ผมคิดว่าทีมคงต้องรักษาความรู้สึกสนุกสนามและในเวลาเดียวกันก็ต้องเคารพในความเป็นเมกกะฟุตบอลของเวมบลีย์ด้วย และผมมั่นใจว่านักเตะจะเล่นกันได้ดีในเกมที่จะถึงนี้” มันชินี่กล่าวในการแถลงข่าว
ขณะที่โค้ชฟรานโก้ โฟด้าของออสเตรียก็ยอมรับว่าทีมของเขาเป็นรองมาก และมันก็ยากที่จะเห็นโอกาสผ่านเข้ารอบ แต่เชื่อมั่นว่าต่อให้มีแค่ 10% ที่จะชนะพวกเขาก็จะคว้ามันมา เพราะทีมมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถได้รับผลตอบแทนที่คู่ควรบางอย่าง และจะก้าวไปสู่เกมรอบถัดไปที่มิวนิคให้ได้.