โดมินิก โซบอสซไล กองกลางห้องเครื่องลิเวอร์พูลเผยถึงช่วงพักครึ่งว่าเจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมมีรีแอคชั่นอย่างไร ก่อนพาทีมกลับมาชนะวูล์ฟแฮมป์ตันได้
Dominik Szoboszlai 🗣️
"We didn’t give up. At half-time the manager talked to us about the passion and what we needed in the second half, the work and what we needed to put into the game. We switched the formation and then everybody did their job and we turned the game.” 🔴 pic.twitter.com/J7keF4s8Xr
— Darwin Nunez Goals (@Darwinunezgoals) September 17, 2023
ลิเวอร์พูลออกไปเยือนวูล์ฟแฮมป์ตันในสภาพครึ่งแรกที่ดูไม่เป็นทรง และโดนควาง ฮี-ชาน ยิงประตูขึ้นนำให้เจ้าบ้านไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม อย่างไรก็ตาม เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำการเปลี่ยนเกมครั้งใหญ่ในครึ่งหลังด้วย และมาได้ประตูจากโคดี้ กัคโป, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสันและลูกยิของฮาร์วี่่ เอลเลียตต์ที่ไปแฉลบปลายรองเท้าฮูโก้ บูเอโน่ กองหลังวูล์ฟเข้าประตู คว้าผลสกอร์ 3-1 กลับออกมา
จากเกมในครึ่งหลังที่พลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ ลิเวอร์พูลเปลี่ยนแปลงทั้งรูปแบบการเล่นและตัวผู้เล่น โดยโซบอสซไลเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีการปรับฟอร์มอย่างมาก ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เผยเรื่องนี้ว่าเจออะไรมาในระหว่างพักครึ่ง
“กุญแจมันอยู่ที่เราจะต้องยังไม่ยอมแพ้ ตอนพักครึ่งผู้จัดการทีมบอกพวกเราถึงแรงกระตุ้นที่เราต้องการใช้ในครึ่งหลัง และการทำงานที่จะต้องเกิดขึ้นในสนาม เราต้องเปลี่ยนแผนการเล่น ทุกคนทำตามหน้าที่และเราก็เปลี่ยนเกมได้”
ในเกมครึ่งหลัง โซบอสซไลถูกขยับจากฝั่งขวาเข้ามาเป็นมิดฟิลด์ตัวต่ำคู่กับเคอร์ตีส โจนส์ ทำให้บทบาทของเจ้าตัวเน้นไปที่โฟกัสเกมรับมากขึ้น ซึ่งแข้งฮังกาเรี่ยนบอกว่าแม้จะเล่นเกมรับมากขึ้นแต่เขาก็ยังคงหาจังหวะขยับขึ้นไปยิง แต่มันยังไม่มีโอกาส
At half-time v Wolves, Jurgen Klopp was very unhappy with few of the #LFC players.
Jurgen Klopp got hold of Dominik Szoboszlai to tell him to take control of the midfield
Klopp believes Dominik Szoboszlai has the ability to become one of the greatest midfielders played at @LFC pic.twitter.com/OrnvG6Skem
— indykaila News (@indykaila) September 17, 2023
“ถ้าจับผมไปยืนตรงนั้น ผมก็จะเล่นตรงนั้น ผมโฟกัสเกมรับเพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่ยังรอสอดขึ้นไปยิงช่วยทีม พยายามหาจังหวะยิง แต่มันไม่เป็นประตู เอาไว้เกมหน้าแล้วกัน”
“เราต่างก็ไม่อยากถูกยิงขึ้นนำ 1-0 กันหรอก แต่ถ้าเราจะชนะแบบนี้เราก็เอานะ ดังนั้นเราต้องพยายามเป็นฝ่ายชนะเมื่อจบเกมให้ได้ตลอด”
ลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้มเพิ่มเป็น 13 คะแนนจาก 5 เกม ขยับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงชั่วคราว ก่อนที่จะหล่นลงมาเป็นอันดับ 3 เมื่อแมนฯ ซิตี้และสเปอร์ต่างเอาชนะคู่แข่งในชั่วโมงให้หลัง ขณะที่สถิติไม่แพ้ใครต่อเนื่องของทีมหงส์แดงขยับไปเป็น 16 เกม.