ความสำเร็จของลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีกได้สร้างภาพที่ชัดเจนของตำแหน่งกองหน้าหมายเลข 9 ที่เป็นมากกว่าคนทำประตู คำว่า กองหน้าตัวหลอก หรือ Falsenine Forward ถูกนิยามด้วยการเล่นของโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
ฟีร์มีโน่ แข้งบราซิล ย้ายมาจากออฟเฟ่นไฮม์ในฤดูกาล 2015 ก่อนที่เจอร์เก้น คล็อปป์จะเข้ามาคุมทีมเพียงไม่กี่เดือน มีความสงสัยว่าเขาจะเป็นองหน้าระดับท็อปได้หรือไม่ เพราะสถิติยิงประตูของเจ้าตัวก็ไม่ได้สูงมากจนเป็นที่จับตามอง
สิ่งที่ทดแทนการทำประตูที่เจอร์เก้น คล็อปป์เห็นในตัวฟีร์มีโน่ คือการเป็นกองหน้าที่จะคอยเชื่อมเกมของกองกลางและกองหน้า ให้ประสานเป็นเนื้อเดียวกัน ฟีร์มีโน่ได้รับหน้าที่สร้างบทบาทการเล่นที่ส่งประโยชน์ต่อเกมรุกของทีม ถึงจะมีสถิติการทำประตูเป็นรองคู่หูกองหน้าของสามประสาน แต่ไม่มีใครปฏิเสธว่า การมีอยู่ของกองหน้าฟอลส์ไนน์ ทำให้หงส์แดงเล่นเมรุกได้อย่างไหลลื่น และโดดเด่น
Roberto Firmino when playing in London this season:
5️⃣ Games
3️⃣ Goals
3️⃣ Assists pic.twitter.com/G89GoE4Ly3— LFC Stats (@LFCData) January 31, 2021
ว่ากันว่าตำแหน่งกองหน้าฟอลส์ไนน์ จะต้องเล่นโดยกองหน้าที่ไร้ซึ่งความเห็นแก่ตัวมากที่สุด
ในฤดูกาลนี้ผู้เล่นกองหน้าหน้าใหม่จากแชมเปี้ยนชิพอย่างแพททริค แบมฟอร์ด ได้ก้าวขึ้นมาท้าทายศึกพรีเมียร์ชิพ สถิติ 16 ประตูพาทีมเป็นแชมป์ลีกพระรองถูกตั้งคำถามว่าจะไปไหวหรือไม่ในเวทีสูงสุด หลังจากที่ตอนยังอยู่ในสังกัดเชลซีมีโอกาสโดนยืมไปเล่นระดับนี้ให้กับนอริช, คริสตัล พาเลซ และเบิร์นลี่ย์ 19 เกมมี 0 ประตู
แบมฟอร์ดมีชื่อทำประตูแรกในเกมพรีเมียร์ลีกระหว่างลงเล่นให้มิดเดิลสโบรห์ ฤดูกาล 2017/18 แต่ก็เป็นแค่ประตูเดียวจากการลงเล่น 8 เกม โบโร่ห์ตกชั้น แต่แบมฟอร์ดกลับไปเล่นแชมเปี้ยนชิพได้อย่ายอดเยี่ยม พาทีมมาถึงเพย์ออฟ ก่อนที่ลีดส์ของบิเอลซ่าจะทุ่มซื้อตัวมาเป็นสถิติสโมสร พร้อมกับสวมเสื้อเบอร์ 9 ให้กับทีม
แพททริค แบมฟอร์ดยิง 16 ประตูพาลีดส์เป็นคว้าแชมป์แชมเปี้ยนชิพ และขึ้นมาอาละวาดในพรีเมียร์ลีกด้วยการทำไปแล้ว 11 ประตู อยู่ในกลุ่มนำของดาวซัลโว แต่เหนืออื่นใดเขายังมีอีก 5 แอสซิสต์ที่น่าสนใจ เพราะมันเป็นแอสซิสต์ที่เกิดจากการเจตนาจ่าย ในจังหวะที่ถ้าเป็นกองหน้ารายอื่นคงเลือกยิงเองไปแล้ว อีกทั้งวิธีการเล่นก็ดูจะมีมากกว่าความเป็นกองหน้าตัวเป้าเท่านั้น โดยเฉพาะการจ่ายในสองประตู และยิงเองอีกลูกจากเกมบุกชนะเลสเตอร์ล่าสุด
🏴 “I’d never have dreamed of even being mentioned for England.”
🙌 “The fact Southgate said that he was watching me was a big boost.”@Patrick_Bamford is determined to do all he can to get an England call-up!
Would you like to see the #LUFC striker in the England squad? 🤔 pic.twitter.com/hr4eaJV4Rd
— talkSPORT (@talkSPORT) February 1, 2021
มีคำถามว่ากองหน้่าแบบนี้สมควรมีในทีมของแกเร็ธ เซาท์เกตหรือไม่ หลังจากที่การเปรียบเทียบผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าสไตล์จอมทำประตูของแบมฟอร์ดยังเป็นข้อสงสัยว่าจะดีพอพาเขาไปติดทัพสิงโตคำรามหรือเปล่า หรือบางทีถ้าเป็นกองหน้าฟอลส์ไนน์ เขาอาจจะมีที่ว่างในทีมลุยศึกยูโร 2020 นี้ด้วย