ชื่อของเควิน เดอ บรอยน์, โลเมลู ลูกากู หรือเอเด็น อาซาร์ และคนอื่นๆ ถูกยกว่าเป็นสมาชิกของทีมชาติเบลเยี่ยมในยุคที่ได้ชื่อว่าเป็น “โกลเด้น เจนเนอเรชั่น”
การจบผลงานเวิร์ล คัพ 2014 ที่บราซิลด้วยรอบ 8 ทีมสุดท้าย ต่อด้วยรอบ 8 ทีมในยูโร 2016 และฟุตบอลโลก 2018 ที่รอบรองชนะเลิศ นี่คือระยะเวลา 8 ปีของเหล่าแข้งดังปัจจุบัน สมาชิกของทีมที่เคยผงาดความอันดับหนึ่งของฟีฟ่า เวิร์ล แร้งค์กิ้งอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ดูเหมือนว่าซัมเมอร์นี้จะเป็นโอกาสสำคัญครั้งสุดท้ายของพวกเขา หากมุ่งหวังที่จะคว้าโทรฟี่
ผู้เล่นพรสวรรค์ในชุดนี้ของเบลเยี่ยมก้าวสู่ความเป็นพ่อคนกันเพียบ แยน แฟร์ตองเก้น, ดรีส์ เมอร์เท่น, โธมัส แฟร์มาเล่น,เอเซล วิตเซล, เอเด็น อาซาร์และคริสเตียน เบนเตเก้ ขณะที่เควิน เดอ บรอยน์กำลังตามไปสมทบในซัมเมอร์นี้
🇧🇪 Belgium’s national team boasts some of the greatest individual players in global football, however, the nation’s golden generation has not been able to win titles so far. As some key players become older, the 2020 UEFA European Championships might be the last chance. #KPMGFBM pic.twitter.com/WqNNJVj3SX
— KPMG Football Benchmark (@Football_BM) March 31, 2021
แม้จะยังมีโรเมลู ลูกากู, ธิโบต์ กูร์ตัวส์หรือยูริ ตีเลอมองส์ที่เป็นผู้เล่นคุณภาพสูง แต่มันก็รู้สึกได้ว่าบานเลื่อนของช่วงเวลาคืบคลานเข้ามามากขึ้นทุกที
อันนี้ยังไม่นับรวมผู้เล่นอย่างธิโมธี กาสตาเญ่, เจสัน ดีนาเยอร์หรือเลอันโดร เด็นดองเกอร์ รวมถึงอัดนัน ยานาไซ ที่ยังเป็นคำถามว่าจะดีพอที่จะทำหน้าที่แทนเหล่าผู้เล่นที่รีไทร์ไปอย่างแวงซ็อง กอมปานี, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แฟร์ตองเก้นและสมาชิกรายอื่นได้อีกหรือไม่
Apart from Wales – obviously – one team I’d love to see @EURO2020 this summer is Belgium.
Absolutely dismantle teams for fun and would be great to see the country’s golden generation win a major honour!
What a squad @BelRedDevils 💎 pic.twitter.com/nDQQYlQuf4
— Josh Hoban (@MrJHoban) March 30, 2021
กุนซือโรแบร์โต้ มาร์ติเนซเองอาจจะมีขุมกำลังที่ดีมาหลายปีต่อเนื่อง แพ้เพียงแค่ 4 เกมจาก 52 นัดที่คุมทัพ พร้อมกับเปอร์เซ็นต์ชนะสูงถึง 77% คว้าอันดับ 3 เวิร์ล คัพที่รัสเซียมาจากการชนะทั้งบราซิลและอังกฤษ พาทีมก้าวจากจุดตกต่ำที่สุดในปี 2007
เบลเยี่ยม โกลเด้น เจนเนอเรชั่นถูกสร้าง มาจากวันเวลาที่ล้มเหลว และกำลังจะเดินหน้าสู่ช่วงที่วัยของนักเตะเป็นกำแพงสำคัญ บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่เหล่าขุนพลปีศาจแดงแห่งยุโรปจะสร้างความสำเร็จสูงสุดเสียที พลาดจากนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสอีกครั้งหรือไม่.