เพอร์เฟ็คสตาร์ทของเบลเยี่ยม แต่ยังไม่เยี่ยมยอดของปีศาจแดงยุโรป

 

เกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มในกลุ่ม B เบลเยี่ยมที่เข้ารอบในฐานะแชมกลุ่มป์แน่นอนแล้ว ลงสนามพบกับฟินแลนด์ ทีมที่ต้องการผลเสมอหรือแพ้น้อยที่สุดเพื่อเข้ารอบต่อไป

 

 

ครึ่งชั่วโมงแรกที่ทัพปีศาจแดงแห่งยุโรปพยายามเจาะเข้าไปทำประตู ถูกปฏิเสธไว้ด้วยการเล่นเกมรับอย่างเหนียวแน่นของฟินแลนด์ หลังจากผ่านเข้าสู่สิบห้านาทีหลังของเกมก่อนพักครึ่ง เบลเยี่ยมทำได้ดี แต่ไม่ดีพอจะผ่านรูคัส ฮราเดคกี้ นายทวารฟินแลนด์ ทำผลงานเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม สกอร์ครึ่งแรก 0-0 ฟินแลนด์ยังผ่านเข้ารอบด้วยแต้มที่ดีกว่ารัสเซียและเดนมาร์ก

 

ทีมน้องใหม่บอลยูโรรอบสุดท้ายรู้ว่างานของพวกเขาเหลืออีก 45 นาทีเพื่อสร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบลึกในการมายูโรรอบสุดท้ายครั้งแรก นาที 65 คว้าพยายามส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายของโรเมลู ลูกากูได้รับการปฏิเธเป็นลูกล้ำหน้าจากวีเออาร์ เป้นโชคดีของฟินแลนด์แต่ก็เป็นสัญญาณอันตราย สุดท้ายทำนบของฟินแลนด์ก็แตก โธมัส แฟร์มาเล่นโหม่งเตะมุมไปชนเสา เหลี่ยมบอลตกลงมาใกล้ตัวฮราเดคกี้ นาททวารฟินแลนด์ที่พยายามควักบอลออกมาด้วยปฏิกิริยากลายเป็นสะกิดบอลย้อนผ่านเส้นประตู ฟินแลนด์ตามหลังด้วยผลสกอร์ แต่ยังเข้ารอบด้วยผลต่างเหนือเดนมาร์ก

 

แต่เมื่อถึงนาที 81 ความยอดเยี่ยมของลูกากูที่พลิกบอล แล้วม้วนตัวจนเจอจังหวะยิงอย่างสวย ผ่านฮราเดคกี้ที่ขาตายไปเรียบร้อย ฟินแลนด์ร่วงลงไปอยู่ในตำแหน่งตามหลังเดนมาร์ก ขณะที่เบลเยี่ยมเตรียทำผลงานเพอร์เฟ็คเกมตามอิตาลีที่ชนะรวดไปก่อนหน้า

 

 

เบลเยี่ยมผ่านเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่ม B ตีตั๋วเข้าไปนอนรอทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดจากสวิสเซอร์แลนด์ของกลุ่ม A หรือทีมใดทีมหนึ่งจากทั้ง 4 ทีมในกลุ่ม E หรือทีมใดทีมหนึ่งจากทั้งสี่ทีมในกลุ่ม F ก็ได้ ส่วนฟินแลนด์แทบจะหมดลุ้นเพราะดูทรงแล้ว 3 แต้มไม่พอผ่านเข้ารอบแน่

 

ขุนพลฟินแลนด์สามารถที่จะหยุดพัก ฉลองกับทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ครั้งแรกของประเทศ ผลงานที่ไม่อายใครจากการมีลุ้นเข้ารอบต่อไปด้วยซ้ำ แฟนบอลฟินดิชก็รู้สึกยินดีมากแล้ว แต่เมื่อมองไปที่เบลเยี่ยม กับผู้เล่นในชุดโกลเด้น เจนเนอเรชั่น การผ่านเข้ารอบต่อไปในฐานะแชมป์ไม่เคยเพียงพอ เพราะผู้เล่นชุดนี้ผ่านช่วงเวลาที่ก้าวขึ้นไปเป็นทีมอันดับหนึ่งของฟีฟ่า แร้งค์กิ้ง แต่ก็เป็นราชันที่ไร้มงกุฎ เพราะจนถึงตอนนี้แม้จะเป็นทีมระดับหัวแถวของโลก แต่แบลเยี่ยมก็ยังไม่เคยได้ชัยชนะในรายการใหญ่แม้แต่ครั้งเดียว

 

จากปี 2008 ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่เบลเยี่ยมเริ่มสร้างทีมชุดที่มีเอเด็น อาซาร์ดเป็นแกนใหม่ เลือกโรเมลู ลูกากูกับธิโบต์ กูร์ตัวที่เล่นในทีมเดียวกันมาตั้งแต่ 12-13 ปี สร้างทีมจากผู้เล่นชุดเยาวชนที่เด่นทั้งรุ่น U-17, U-19 และ U-21 ให้ก้าวมาทดแทนผู้เล่นที่ทำได้เพียงแค่ทีมระดับกลางของยุโรป ถึงทุกวันนี้ทุกคนต่างเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ชื่อเสียง และความสามารถในระดับท็อป แต่เบลเยี่ยมก็ยังขาดโทรฟี่ที่จะยกระดับพวกเขาเป็นยอดทีมจริงๆ เสียที.

 

Scroll to Top