แมนฯ ซิตี้ยึดที่ว่างรอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เรอัล มาดริดเข้าไปรอก่อนแล้ว โดยเป๊บบอกว่าการจะเป็นแชมป์ได้ก็ต้องชนะเรอัล มาดริดให้ได้ก่อน
The last time Man City faced Real Madrid…
RUN IT BACK 🍿🔥 pic.twitter.com/tYAB91oNfR
— ESPN FC (@ESPNFC) April 19, 2023
แมนฯ ซิตี้ที่ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 4-1 เหนือบาเยิร์น มิวนิค ทำสถิติผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ฤดูกาลติด โดยจะต้องเจอกับคู่ปรับหน้าเดิมเมื่อปีที่แล้วอย่างเรอัล มาดริด แชมป์เก่าที่เขี่ยพวกเขาตกรอบ
ในแชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งเรอัล มาดริดและแมนฯ ซิตี้ต้องเจอกันในรอบรองชนะเลิศที่เล่นกัน 210 นาที รวมต่อเวลาพิเศษ และมีถึง 11 ลูกที่เกิดขึ้น ก่อนจะเป็นมาดริดที่ชนะและเข้าไปชูถ้วย
เป๊บ กวาร์ดิโอล่า กุนซือของแมนฯ ซิตี้ถูกจับตาว่าจะสามารถลบภาพผลงานที่ย่ำแย่ในการเจอเรอัล มาดริดออกไปได้หรือไม่ จากการที่ไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งจากสเปนได้หลายรอบแล้ว ขณะที่ฝั่งลอส บลังโกสดูจะมีความกดดันน้อยกว่า
“พวกเขามีโอกาสงามๆ หนึ่งหรือสองครั้ง อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่เรารู้วิธีการป้องกันเป็นอย่างดี” เป๊บพอใจผลงานของลูกทีมในเกมกับบาเยิร์น มิวนิค และรู้ว่าต้องพยายามทำแบบนั้นอีกครั้งในสองสัปดาห์ข้างหน้า
นายใหญ่ชาวสเปนของทัพเรือใบสีฟ้าถูกวิจารณ์พอดูตลอดทศวรรษที่ผ่านมา สำหรับการที่ยังไม่สามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้สำเร็จ ถึงอย่างนั้นก็มีโอกาสที่จะไถ่โทษจากการถูกรุมดูถูกครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น
“ทุกทีมก็รู้สึกเหมือนกันหมดว่าถ้าอยากเป็นแชมป์รายการนี้ต้องชนะเรอัล มาดริด เมื่อก่อนเป็นบาร์ซ่า ตอนนี้เป็นมาดริด” เป๊บบอก
Real Madrid vs. Man City
Milan vs. InterThe Champions League semifinals are set 🏆 pic.twitter.com/5UweMmCvlu
— B/R Football (@brfootball) April 19, 2023
มันไม่ได้หมายความเพียงแค่ว่าแมนฯ ซิตี้จะต้องชนะเพราะเจอกับเรอัล มาดริดโดยตรงหรือเจอกันอีกครั้งในรอบรองชนะเลิศ หากแต่ทีมราชันชุดขาวคือสโมสรที่เป็นแชมป์ยุโรปสูงสุด และคุณภาพของทีมเรอัล มาดริดแทบทุกยุคก็บ่งบอกระดับของทีมที่อยู่ในจุดสุดยอดของยุโรปเสมอ
ทีมที่ชนะในรอบนี้ ไม่ว่าจะเรอัล มาดริดหรือแมนฯ ซิตี้จะเข้าไปชิงชนะเลิศกับทีมจากอิตาลี ที่เป็นอินเตอร์ มิลาน และเอซี มิลาน ซึ่งการันตีทีมจากอิตาลีเข้าชิงเป็นสมัยแรกในรอบ 12 ปี ไว้แล้ว.