ดิดิเย่ร์ เดสชองส์ นายใหญ่ทีมชาติฝรั่งเศสยังไม่เผยว่าอนาคตจากนี้จะเป็นอย่างไร หลังจากได้เป็นเพียงพระรองใน ฟุตบอลโลก ที่เพิ่งจบลงไป
🇫🇷 Prancis di bawah asuhan Didier Deschamps:
2016: Runner-up EURO 🥈
2018: Juara World Cup 🥇
2021: Juara UEFA Nations League 🥇
2022: Runner-up World Cup 🥈pic.twitter.com/Rt4Rpeepw1— Berita Sepakbola Dunia (@gilabola_ina) December 19, 2022
ฝรั่งเศส แชมป์เก่าจากฟุตบอลโลก 2018 ไม่สามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์ไว้ได้ หลังจากที่ตามตีเสมออาร์เจนติน่า 3-3 ในช่วงปลายการต่อเวลาพิเศษ แต่สุดท้ายก็แพ้ในการดวลจุดโทษ 4-2
สัญญาของเดสชองส์ในการคุมทีมชาติฝรั่งเศสจะสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นปีนี้ โดยที่ชื่อของซีเนอดีน ซีดาน ถูกยกขึ้นมาว่าถึงเวลาได้รับไม้ต่อจากกุนซือวัย 54 ปีในการชิงแชมป์ยุโรปและฟุตบอลโลกหลังจากนี้
อาร์เอ็มซี สปอร์ตมีการถามถึงอนาคตของเดสชองส์ แต่เจ้าตัวยังไม่ให้การฟันธงเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ผมมีคิวเข้าไปคุยกับประธานสมาคมฟุตบอลหลังจากขึ้นปีใหม่ คืนนี้ผมยังไม่มีอารมณ์จะตอบเรื่องนี้นะ” เดสชองส์กล่าวหลังเกมนัดชิงจบลง
ในการให้สัมภาษณ์ของเดสชองส์นั้น เจ้าตัวบอกว่าวิธีการที่มีมของเขาแพ้ในเกมนัดชิงนี้มันโหดร้ายมาก จากการที่ไล่ตามตีเสมอสำเร็จหลังถูกนำไปก่อนถึง 2 รอบ แต่สุดท้ายก็มาแพ้ในการดวลจุดโทษ
BREAKING: Didier Deschamps will hold talks with the French football federation over his future in the new year. pic.twitter.com/ifZokhk2zK
— Sky Sports News (@SkySportsNews) December 18, 2022
“เราไม่ได้ดีนักในช่วง 60 นาทีแรกของเกมเมื่อเจอกับทีมคู่แข่งระดับท็อปและมีพลังขับเคลื่อนเหนือกว่า แต่เราก็กลับมาได้ ทำให้เกมกลับมาเสมอกันจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก การแพ้อย่างนี้ทำให้เราเสียใจมาก” เดสชองส์กล่าว
ฝรั่งเศสเองก็เกือบมีโอกาสแซงคว้าแชมป์ในช่วงต่อเวลาพิเศษ หลังจากที่คิลิยัน เอ็มบับเป้ทำแฮตทริกตีเสมอได้ เมื่อรันเดล โคโล่ได้ยิงจ่อๆ ในเขตโทษ แต่เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซโชว์ซุปเปอร์เซฟในจังหวะนี้
ดิดิเย่ร์ เดสชองส์เกือบเป็นกุนซือคนแรกที่สามารถพาทีมคว้าแชมป์โลกได้สองครั้งติดคนแรก และฝรั่งเศสก็เกือบจะเป็นทีมแรกในรอบ 60 ปีที่คว้าแชมป์โลกสองสมัยติดหลังจากบราซิลและก่อนหน้านั้นโดยทีมชาติอิตาลี.