ดิดิเย่ร์ เดสชองส์ นายใหญ่ของทีมชาติฝรั่งเศสยกทีมอังกฤษว่าเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม และฝรั่งเศสของเขาโชคดีในการคว้าชัยชนะได้
Mbappé – Deschamps – Griezmann 🥰🇫🇷 pic.twitter.com/AGU3hOnjiY
— BeFootball (@_BeFootball) December 10, 2022
ฝรั่งเศส แชมป์เก่าจาก ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ยังอยู่บนเส้นทางป้องกันแชมป์ที่ไม่มีทีมไหนทำได้มากว่า 60 ปี โดยการเอาชนะทีมชาติอังกฤษของแกเร็ธ เซาท์เกต 2-1 ในเกมที่เต็มไปด้วยความเข้มข้น
ฝรั่งเศสออกนำไปก่อนตั้งแต่ 17 นาที โดยออเรเลียง ชูอาเมนี่ มิดฟิลด์จอมแกร่ง แต่อังกฤษก็กลับเข้าสู่เกมจากจุดโทษของแฮร์รี่ เคน ในช่วงต้นครึ่งหลัง
โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กองหน้าเข้าของสถิติยิงประตูสูงสุดของทีมชาติฝรั่งเศสเพิ่มจำนวนประตูของตนเองจากการโหม่งลูกครอสผ่านจอร์แดน พิคฟอร์ดที่โชว์หลายซุปเปอร์เซฟในนาที 78
เกมเข้าสู่ช่วงลุ้นหัวใจวายของแฟนบอลทั้งสองทีม เมื่ออังกฤษได้จุดโทษครั้งที่สองในเกม นาที 84 แต่แฮร์รี่ เคน กดบอลโด่งข้ามคานไปเยอะ อังกฤษพลาดโอกาสทอง และเป็นฝรั่งเศสที่รักษาโมเมนตัมในการเอาชนะไปจนหมดเวลาได้
“มันเป็นเกมใหญ่มาก เราเล่นกับอังกฤษที่ยอดเยี่ยมทั้งร่างกายและแท็กติก” เดสชองส์บอก
Les anglais qui pleurent alors qu’ils ont été incapables de marquer un seul but dans le jeu ptdrrr , 2 penaltys et ça arrive pleurer . La tactique de Deschamps les a juste tué pic.twitter.com/QXZMcjbJEI
— RoroⓃoah 🇫🇷🇧🇷🇯🇵 (@NoahJrr) December 11, 2022
“มันเป็นอะไรที่เยี่ยมมากสำหรับนักเตะในการเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายได้ เราโชคดีมากเลยที่เราไม่เสียประตูจากจุดโทษลูกที่สอง เรายังมีสกอร์นำและสภาพจิตใจเราก็ยังดีอยู่”
เดสชองส์กำลังมองถึงการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของตัวเอง ซึ่งเขาเคยเป็นแชมป์สมัยเป็นนักเตะเมื่อปี 1998 มาก่อนแล้ว โดยมีโมร็อกโกที่จะต้องเผชิญหน้าด้วยในรอบรองชนะเลิศ ขณะที่อีกคู่อาร์เจนติน่าจะเจอกับโครเอเชีย เพื่อหาทีมที่จะเป็นแชมป์โลกในวันที่ 18 ธันวาคม.