แกเร็ธ เซาท์เกตเอ่ยปากเตือนดาวยิงคนเก่ง ว่าอาจจะต้องรอไปก่อนสำหรับการทำลายสถิติยิงประตูให้ทัพสิงโตคำรามของเวย์น รูนี่ย์ต่อไปก่อน บอกจำนวนเกมขึ้นอยู่กับแผนป้องกันนักเตะบาดเจ็บก่อนบอลโลก
Harry Kane scores 50th international goal as England rally to take point in Germany https://t.co/yvZKgLcOGM
— MediaWizz2 (@Media2Wizz) June 9, 2022
แฮร์รี่ เคน ดาวยิงทีมชาติอังกฤษบอกว่าเขาตั้งเป้าที่จะทำสถิติการยิงในนามทีมชาติให้แซงผลงานของเวย์น รูนี่ย์ก่อนที่จะถึงบอลโลกรอบสุดท้ายที่กาต้าร์ แต่ร้อนถึงแกเร็ธ เซาท์เกต ผู้จัดการทีมชาติที่ต้องออกมาบอกว่าทีมมีแผนที่จะจัดลำดับเกมให้นักเตะลงเล่น อาจจะไม่มากเท่าที่ดาวยิงสเปอร์ต้องการ
เคนนั้นอยากที่จะเล่นอีกสองนัดในเกมเนชั่นส์ ลีก ซึ่งจะลงพบกับอิตาลีและฮังการี เพื่อทำอีก 3 ประตูขึ้นไปทาบสถิติของเวย์น รูนี่ย์ที่ทำไว้ 53 ลูก โดยล่าสุดเพิ่งกดจุดโทษพาทีมตามตีเสมอเยอรมันมา โดยสองเกมที่ว่านั้นเป็นเกมในวันเสาร์ต่อด้วยวันอังคาร
อย่างไรก็ตามทางเซาท์เกตเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องของอาการเหนื่อยล้า และอยากที่จะพักแฮร์รี่ เคน ไว้ข้างสนาม โดยจะแทนที่ด้วยแทมมี่ อับราแฮม เพราะมองว่าถ้าเคนลงเล่นอีกมันจะเป็นการหักโหมมากเกินไป เพราะนับถึงตอนนี้ดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมลงเล่นไป 60 เกมทั้งในสโมสรและทีมชาติแล้ว
“อะไรที่ผมจะพูดก็คือเราจะต้องมั่นใจว่าเราได้ดูแลในเรื่องสวัสดิภาพของนักเตะเป็นอย่างดีหรือไม่ ตั้งแต่เกมกับฮังการีเมื่อวันเสาร์ เราก็จัดการเรื่องนี้ ตามด้วยตอนไปเยือนเยอรมัน เราก็พยายามรักษาความสดของนักเตะและมันก็ออกมาเยี่ยม” เซาท์เกตบอก
England: Harry Kane to be rested for game vs Italy with Tammy Abraham set for start https://t.co/QkVQVqNGFZ
— US -Breaking News (@USBreaking24) June 9, 2022
“แต่แฮร์รี่ก็ทำตัวเป็นมืออาชีพอย่างยอดเยี่ยม เขาไม่ได้เดินมาเคาะประตูแล้วออกว่าจะเล่นทั้ง 4 เกมนั้น เพราะในทางเดียวกันเราจำเป็นต้องดูฟอร์มของแทมมี่ด้วย แต่ถ้าเราให้เขาลงเล่น เขาก็ยินดีจะลงไปทำผลงานของตัวเองอย่างแน่นอน”
เคนที่กำลังเข้าใกล้สถิติของรูนี่ย์ยังเหลือสองเกมในเดือนนี้ให้เล่นที่โมลินิวซ์ กราวด์ และมีอีกสองเกมในเดือนกันยายนตามปฏิทินฟีฟ่า เดย์ ก่อนที่จะเข้าบอลโลก
“ผมอยากที่จะเล่นทุกเกมถ้าเป็นไปได้ แกเร็ธเขาก็รู้เรื่องนี้ดี ผมแค่เตรียมพร้อมที่จะเล่นรอเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะได้เล่นเลยหรือนั่งรอบนม้านั่งสำรอง ผมก็พร้อมเสมอ” แฮร์รี่เคนบอก.