เรอัล มาดริด คือทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันสโมสรยุโรป จากการเป็นแชมป์ 13 ครั้งจนได้ฉายาว่า ราชันชุดขาว แต่ก็ใช่ว่าทุกครั้งจะเป็นเส้นทางที่ราบรื่นของสโมสรจากลา ลีกาทีมนี้
Real vs Atletico will always send bring to mind this absolute heartbreaker from Sergio Ramos.
What's the biggest goal that's been scored in your club's derby?pic.twitter.com/0dmu7GPPIu
— COPA90 (@Copa90) December 12, 2021
เรอัล มาดริดที่เพิ่งจะพลิกสถานการณ์จากประตูรวมที่ตามหลังเปแอสเช 2-0 เมื่อเกมเลกสองในซานติอาโก้ เบร์นาเบวดำเนินไปถึงนาทีที่ 17 และจบครึ่งแรกด้วยการกำลังจะตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนที่ครึ่งหลังคาริม เบนเซม่าจะมาทำแฮตทริกพาทีมเฉือนชนะผ่านเข้ารอบด้วบประตูรวม 3-2 เป็นหนที่ 7 ของการผ่านเส้นตายแบบเฉียดฉิวของทีมเมืองหลวงสเปน
ย้อนไปปี 2002 ในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศที่พบกับบาเยิร์น มิวนิค เกมเลกแรกจบลงด้วยการบุกไปโดนบาเยิร์นเอาชนะก่อน 2-1 เกมที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบวดำเนินมาถึงนาที 69 อิวาน เฮลเกร่าทำประตูขึ้นนำ ตามด้วยการยิงของกูตี ทีมชนะและเข้าไปถึงแชมป์สมัยที่ 3 ในรอบหกปี
เกมกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในปี 2014 ซึ่งปีกอ่นหน้านั้นทีมก็พิ่งถูกลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่เสือเหลืองในสมัยนั้นเขี่ยตกรอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีกมา มาปีนี้ทั้งคู่เจอกันในรอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งการนำก่อน 3-0 ที่สเปนทำให้น่าจะเป็นเรื่องง่ายในการไปเยอรมัน แต่การที่ดอร์ทมุนด์ขึ้นนำ 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก โชคดีที่ไม่เสียประตูเพิ่มอีกทำให้รอดเข้ารอบมาได้ จนผ่านเข้าไปถึงนัดชิงชนะเลิศที่เจอกับแอตฯ มาดริด
นัดชิงชนะเลิศยูซีแอล 2014 คู่ชิงเป็นอริร่วมเมืองมาดริด และเป็นดิเอโก้ โกดินที่ทำประตูให้ตราหมีออกนำ 1-0 จนเซร์คิโอ รามอสมาช่วยโหม่งประตูรอดตายในนาที 93 ให้เข้าสู่รอบต่อเวลาพิเศษที่ราชันชุดขาวได้ใจยิงเพิ่มถึง 3 ลูก
เกมในปี 2015 เรอัล มาดริดแชมป์เก่าโคจรมาเจอกับชาลเก้ 04 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แม้จะบุกไปเอาชนะที่เยอรมันมา 2-0 แต่การถูกชาลเก้ขึ้นนำ 1-0 และ 2-1 ในซานติอาโก้ เบร์นาเบวก็ทำให้ทีมมีสิทธิ์ตกรอบถ้าโดนทำประตู 3-1 ตามกฏอเวย์โกล์ แต่คริสเตียโน่ โรนัลโด้และคาริม เบนเซม่าช่วยทำอีกคนละประตูพาทีมรอดตัว
ฤดูกาล 2016 หลังโดนโวล์ฟบวร์กชนะในเกมที่เยอรมัน 2-0 เมื่อกลับมายังสเปน แม้ทีมจะทวงกลับมาเสมอกันได้เร็วจากการยิงเหมาของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ก็ต้องรอจนเหลือแค่ 15 นาทีที่ดาวยิงโปรตุเกสจะทำแฮตทริกเอาชนะและผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ
เกมกับยูเวนตุสในปี 2018 รอบก่อนรองชนะเลิศ เรอัล มาดริดบุกไปชนะขาด 3-0 ที่ตูริน แต่ทุกอย่างไร้ความหมายเมื่อทีมม้าลายมาตามยิง 3-0 หลังครบหนึ่งชั่วโมงของเลกสอง ก่อนที่จุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากโรนัลโด้จะพาทีมเอาชนะในเกมสุดดราม่าได้