เกือบจืดชืด สวีเดนเฉือนสโลวะเกียด้วยจุดโทษโทน นำฝูงกลุ่ม อี

 

เกมนัดที่สองในกลุ่ม อี ระหว่างสวีเดนกับสโละเกียที่กาซพรอม อารีน่าในเซ็นต์ ปีเตอร์เบิร์กเกือบกลายเป็นเกมจืดสนิท ก่อนที่ขุนพลไวกิ้งจะได้จุดโทษกลางครึ่งหลังเป็นประตูชัย โดยเกมนี้สโลวะเกียยิงไม่เข้ากรอบแม้แต่ลูกเดียว

 

 

ก่อนเกมแฟนสวีเดน ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง สร้างความคึกคักด้วยการยกพลเกือบพันคนมาสร้างบรรยากาศก่อนเกม แต่เกมที่สนามกลับเต็มไปด้วยความน่าเบื่อ โดยทั้งสองทีมสร้างโอกาสทำปรตูรวมกันในครึ่งแรก แค่ 7 ครั้ง เป็นของสวีเดน 4 ครั้งที่เข้ากรอบครั้งเดียว และของสโลวะเกีย 3 ครั้งที่ไม่เข้ากรอบเลย

 

ทัพไวกิ้งที่มีแค่ 1 คะแนน จากการเสมอกับสเปนมาในนัดแรกจำเป็นต้องเอาชนะในเกมนี้ เพราะสโลวะเกียนั้นมี 3 แต้ม จากการเอาชนะโปแลนด์ในนัดแรกมาแล้ว ดังนั้นอาจจะพอใจต่อการเก็บแต้มเพิ่มด้วยผลเสมอ

 

ในครึ่งหลังสวีเดนแทนที่จะขึ้นเกมรุกมากกว่า กลับกลายเป็นฝ่ายครองบอลตามหลังด้วยสัดส่วน 57%-43% แต่ก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ในนาที 76 จากจังหวะที่อเล็กซานเดอร์ ไอแซ็คเลี้ยงตัดแนวรับแล้วจ่ายไปยังที่ว่างให้โรบิน ไควสันตามไปเร็ว และจังหวะดังกล่าวมาร์ติน ดูบลาฟก้า นายทวารขอวสโลวะเกียออกมารวบจนกลายเป็นจุดโทษ ซึ่งเอมิล ฟอร์สเบิร์กไม่ปล่อยให้โอกาสทองคำที่หายากยิ่งในเกมนี้ต้องเสียของ จัดการยิงเข้าไป เป็นสกอร์นำ 1-0 และเป็นลูกแรกของสวีเดนในทัวร์นาเม้นท์

 

 

เกมของสโลวะเกียต้องเร่งเครื่องแต่ก็ไม่สามารถที่จะเจาะแนวรับของสวีเดนเข้าไปได้เลย จนมามีลุ้นสุดๆ จากช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายของเกม เมื่อได้ลุ้นวีเออาร์ว่าจะเป็นจุดโทษจากการทำแฮนด์บอลของแนวรับสวีเดนหรือไม่ แต่สุดท้ายก็มีการยืนยันว่าไม่ และขุนพลไวกิ้งก็ชนะด้วยลูกจุดโทษเดียวในเกม

 

สวีเดนมี 4 แต้มโอกาสเข้ารอบต่อไปสดในส ส่วนสโลวะเกียต้องไปลุ้นกับเกมนัดสุดท้ายที่เจอสเปน โดยสถิติหลังเกมของนัดที่น่าจะเรียกว่ามีครึ่งแรกที่น่าเบือ่ที่สุดในทัวร์นาเม้นท์ตอนนี้ จบลงด้วยโอกาสเข้ากรอบ 4 ครั้งของสวีเดน ยิงติดบล็อก 2 ครั้งและไม่เข้ากรอบ 7 หน ส่วนสโลวะเกียไม่เข้ากรอบเลยจากความพยายาม 9 ครั้ง ติดบล็อกไป 4 และอีก 5 ครั้งไม่ใกล้เคียงประตู.
 

Scroll to Top