อิตาลีดวลโทษหักด่านสเปนเข้าชิง กระทิงคุมเกมแต่กระสุนไม่คม

 

เกมรอบรองชนะเลิศศึกยูโร 2020 คู่แรกที่เวมบลีย์ ทีมชาติอิตาลีของโรแบร์โต้ มันชินี่ ลงสนามพบกับทีมชาติสเปนของโค้ชหลุยส์ เอ็นริเก้ โดยมีตั๋วนัดชิงชนะเลิศเป็นเดิมพัน

 

 

เกมนี้มันชินี่ กุนซืออัซซูรี่เลือกใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากเกมที่ชนะเบลเยี่ยม 2-1 เฟรเดริโก้ เคียซ่าได้ลงเล่นเป็นตัวจริงต่อเนื่องหลังจากผลงานที่ดีทั้งแต่รอบ 16 ทีม ส่วนตำแหน่งที่หายไปของเลโอนาร์โด สปินาซโซล่าใช้เอเมอร์สันทำหน้าที่แทน

 

กลับกันจากอิตาลีที่ใช้ผู้เล่นชุดเดิม สเปนของหลุยส์ เอ็นริเก้มาแปลก ด้วยชุดแนวรุกที่ผิดไปจากเกมกับสวิสเซอร์แลนด์ ด้วยการดร็อปอัลวาโร่ โมราต้าไว้ที่ม้านั่งสำรองแล้วให้ ดาเนี่ยล โอลโม่ยืนเป็นหน้าเป้า
สลับแฟร์ราน ตอร์เรสมาอยู่ทางซ้ายแทนพาโปล ซาราเบียเพื่อให้ทางขวามีที่ว่างสำหรับ มิเกล โอยาร์ซาบัล แถมเลือกเอริค การ์เซียเป็นเซ็นเตอร์คู่กับอายเมอริค ลาป็อตต์

 

ด้วยการที่สเปนชุดนี้มีดีที่การจ่ายบอลและครองบอล รูปเกมที่เคยขึ้นอย่างดุดันของอิตาลีในยูโร 2020 ถูกย้อนกลับไปใช้แนวที่เป็นสัญลักษณ์เดิม นั่นคือการตั้งเกมรับแล้วรอสวน น่าเสียดายที่ทางสเปนเองแม้จะครองเกมได้มาก 65% ต่อ 35% แต่จังหวะหวังผลเป็นประตูแทบจะนับครั้งได้ เป็นอิตาลีเสียอีกที่มีจังหวะสวนกลับงามๆ หลายครั้งแบบควรได้ประตู

 

หลังการเล่นอย่างอดทนอยู่นาน อิตาลีกลายเป็นทีมที่ขึ้นนำได้ก่อนในนาที 60 จากการสวนกลับเร็ว จิอันลุยจิ ดอนนารุมม่ารับบอลได้ ก่อนออกบอลเร็วให้ลอเรนโซ่ อินซินเญ่จ่ายไดเร็คไปข้างหน้า แนวรับสเปนสกัดไม่ดีเข้าเท้าของเฟเดริโก้ เคียซ่าที่แตะหาจังหวะยิงฮุคเข้าเสาไกล หมดปัญหาที่อูไน ซิมงจะทะยานไปรับ

 

สเปนปรับเกมเอาแฟร์ราน ตอร์เรสออกส่งโมราต้าลงสนาม และเป็นดาวยิงจากแอตฯ​มาดริดที่ทำชิ่ง 1-2 กับดาเนี่ยล โอลโม่ เข้าไปเปิดหน้าเท้าหลอกยิงเสาแรกให้ทีมตามตีเสมอ 1-1 นาที 80 แม้ว่าช่วงที่เหลือกระทิงดุจะพยายามบุกหนักกว่าเดิม แต่สเปนก็ป้องกันได้หมด

 

 

รูปเกมต่อเวลายังคงเหมือนเดิม สเปนครองบอลเข้าใส่แต่จบสกอร์ไม่ได้ ส่วนอิตาลีรอสวนเป็นจังหวะ มีความอันตรายแต่ยังไม่คมพอ ก่อนที่จะต้องดวลจุดโทษตัดสิน และเป็นโมราต้าที่ยิงไปให้ดอนนารุมม่าเซฟ กลายเป็นการสังหารจุดโทษในยูโรครั้งนี้ โมราต้ายิงไม่เข้าถึง 2 ครั้ง
อิตาลีเข้าชิงชนะเลิศเมเจอร์เป็นครั้งที่ 10 พร้อมสถิติที่น่าเกรงขาม ไม่แพ้ใคร 33 เกม และชนะในรายการยูโร 2020 ตั้งแต่รอบคัดเลือก 16 เกมติด.

 

Scroll to Top