อิตาลีบินสูง ไร้พ่ายแถมคลีนชีต ตบเวลส์ 10 ตัว 1-0 แต่ควงกันเข้ารอบ

 

เกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มในกลุ่ม A ที่สนามโอลิมปิก สเตเดี่ยมในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ก็ยังเป็นอิตาลีที่สานต่อชัยชนะนัดที่ 11 ติดต่อกันจากเกมทางการ และเป็นการไม่แพ้ใครติดต่อกัน 30 เกม เทียบเท่าที่เคยทำได้ในระหว่างปี 1935-1939

 

 

ชัยชนะสองเกมก่อนหน้าและโอกาสคว้าแชมป์กลุ่มสูงมาก ทำให้โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือของอิตาลีเลือกที่จะทำการปรับเปลี่ยนทัพ ให้ผู้เล่นรายอื่นๆ ได้ออกสตาร์ทเป้นตัวจริงบ้าง และมีถึง 8 ตำแหน่งที่เปลี่ยนไปจากเกมที่ถล่มสวิสเซอร์แลนด์ 3-0 ในนัดที่สอง ส่วนเวลส์ยังต้องดิ้นรนต่อไปเนื่องจากมีแค่ 4 แต้มที่ยังเสี่ยงต่อการโดนคู่แข่งอย่างสวิสเซอร์แลนด์เบียดเข้าป้าย

 

แม้เกมของทีมอัซซูรี่จะดูเนือยและเดินเกมได้ไม่ดุดันเท่ากับสองนัดแรก แต่ก็ยังสามารถที่จะครองเกมได้ดีกว่าฝั่งทัพมังกรแดง จนถึงนาทีที่ 39 มาร์โก แวร์รัตติที่ได้รับโอกาสคืนสนามก็ตักบอลสั้นจากจังหวะฟรีคึิกฝั่งขวา ให้มัตเตโอ เปสซิน่า แข้งจากอตาลันต้าที่ถูกเรียกติดทีมแทนที่ผู้เล่นบาดเจ็บในโค้งสุดท้าย ตวัดตามน้ำไปเสาไกล สุดปลายมือเหยียดของแดนนี่ วาร์ด นายทวารเวลส์จะปัดถึง

 

 

อิตาลีขึ้นนำ 1-0 เหนือทีมชาติเวลส์ และครองบอลได้ดีกว่ากันถึง 60-40 พอเข้าครึ่งหลังด้วยสถานการณ์ที่ลอยตัวของอิตาลี และเวลสส์ที่เช็คผลของอีกสนามเพื่อรู้ตัวว่ายังคงครองความได้เปรียบ อิตาลีทยอยเปลี่ยนแปลงผู้เล่นไปจนครบโควตา และเวลส์ที่ขยับแบบประคองตัวไม่ต้องการเสียประตูเพิ่ม สุดท้ายครบ 94 นาทีรวมทดเจ็บ ต่างฝ่ายต่างได้การเล่นและผลตามที่ต้องการ

 

อิตาลีชนะรวด 3 เกมในรอบแรกของกลุ่ม A ยิงไป 7 ลูก ไม่เสียประตู เข้าป้าย 9 แต้มเต็ม ไปรอเจอรองแชมป์กลุ่ม C ที่ยูเครนจะแย่งกันกับออสเตรีย ส่วนเวลส์ได้ 4 แต้มพร้อมผลต่างประตูบวกหนึ่ง อยู่อันดับเหนือกว่าสวิสเซอร์แลนด์ที่ติดลบหนึ่ง เข้ารอบตามอิตาลีไป

 

ลูกทีมของโรแบร์โต้ มันชินี่ถูกใช้งานในรอบแรก 25 จาก 26 คน เว้นอเล็กซ์ เมเร็ต นายทวารจากนาโปลีที่เป็นมือ 3.
 

Scroll to Top