ลิเวอร์พูลหยุดสถิติไร้พ่ายในฤดูกาลนี้ของนาโปลีลงได้ หลังจากเอาชนะในเกมนัดสุดท้ายของยูซีแอล 2-0 แต่ไม่ดีพอแซงเข้าป้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม A
Liverpool end Napoli's 21-game unbeaten streak 😱 pic.twitter.com/Pdm2K9P213
— GOAL (@goal) November 1, 2022
ก่อนเกมลิเวอร์พูลเพิ่งแพ้ 2 นัดติดในพรีเมียร์ ลีกให้กับสองทีมอันดับสุดท้ายตาราง ไม่ว่าจะเป็นน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์และลีดส์ ยูไนเต็ด ขณะที่ฝั่งนาโปลีกำลังอยู่ในฟอร์มร้อนแรงที่สุด ด้วยการยังไม่แพ้ใครตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นจนถึงนัดล่าสุดที่ชนะซัสซูโอโล่ 4-0 ซึ่งเป็นการชนะต่อเนื่องนัดที่ 13 แถมในจำนวนนี้มีเกมที่ชนะลิเวอร์พูล 4-1 ที่ดิเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า สเตเดี่ยม
ลิเวอร์พูลกับนาโปลีต่างการันตีผ่านเข้ารอบน็อกเอ้าท์ของศึกแชมเปี้ยนส์ ลีกปีนี้ทั้งคู่ โดยเกมนี้เกือบจะจบด้วยการเสมอกันอยู่แล้ว จนกระทั่งลิเวอร์พูลมาได้ประตูในนาที 85 จากการซ้ำจ่อๆ ของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลังจากนายทวาร อเล็กซ์ เมเร็ตปัดลูกโหม่งของดาร์วิน นูนเญซที่ยังไม่ข้ามเส้นเต็มใบออกมา
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บยาวไปถึงนาทีที่ 8 จากลูกเตะมุมของคอสตาส ซิมิกาซที่เปิดเข้ามาให้ดาร์วิน นูนเญซโหม่งที่เสาแรกเข้าไป เป็นชัยชนะ 2-0 แต่ลิเวอร์พูลไม่สามารถแซงเข้าเป็นที่ 1 ของกลุ่มได้อยู่ดี
🌟¡MVP!🌟
Mohamed Salah 🇪🇬 fue escogido como el mejor jugador del partido entre Liverpool vs Napoli. Anotó el primer gol a los 85 minutos del segundo tiempo. ¡TIENE 7 GOLES CHAMPIONS LEAGUE! ¡INCREIBLE! pic.twitter.com/44vsXw6NM4— Joaquin Vásquez (@joaquinv_vv) November 2, 2022
“การชนะทีมที่ดีที่สุดทีมหนึ่งในโลกอย่างนาโปลีเป็นความรู้สึกที่สุดยอดมาก” ซาลาห์กล่าวหลังเกม ทั้งยังบอกว่าการได้ผลลัพธ์ที่ดีจะเรียกความมั่นใจให้กับทีมได้สำหรับการเล่นฟุตบอลด้วยยุโรปและเกมลีก.