กลุ่มทุนอย่างน้อย 4 กลุ่มให้ความสนใจที่จะเข้าเทคโอเวอร์สโมสรเอฟเวอร์ตันจากฟาฮัด โมชิรี ที่เจอปัญหาทั้งในและนอกสโมสรจนอาจจะทำให้เจ้าของทีมชาวอังกฤษเชื้อสายอิหร่านยอดตัดราคาปล่อยขาย
🏟 | Coming along nicely!#EFC 🔵 pic.twitter.com/PiBAWkPY7W
— Everton (@Everton) June 11, 2022
โมชิรีที่เข้ามาซื้อหุ้นส่วนใหญ่ถึง 49% ในปี 2016 ก่อนที่จะขยับเป็นเจ้าของทีมโดยสมบูรณ์กับสัดส่วน 94% ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่รายงานจากสื่อเดอะ มิร์เร่อร์ บอกว่าตอนนี้มีกลุ่มทุนอย่างน้อยๆ 4 กลุ่มที่สนใจจะขอเทคโอเวอร์
หนึ่งในกลุ่มที่ถูกรายงานว่าให้ความสนใจเทคโอเวอร์สโมสรครั้งนี้มีชื่อของปีเตอร์ เคนยอน อดีตซีอีโอของแมนฯ ยูไนเต็ดรวมอยู่ด้วย
ราคาที่ถูกประเมินเอาไว้จากการขายที่อาจจะเกิดขึ้นอยู่ที่ราว 1 พันล้านปอนด์ จากตัวสโมสรและสนามใหม่มูลค่า 500 ล้านปอนด์ที่กำลังสร้างในปัจจุบัน
เหตุผลส่วนหนึ่งที่โมชิรีจะตัดสินใจเลือกทำทีมเอฟเวอร์ตันมาจากการที่เงินจำนวนมหาศาลของเจ้าตัวถูกใช้อย่างหายนะ ตัวเลขเงินที่เทลงไปกว่า 530 ล้านปอนด์เพื่อดึงนักเตะอย่างไม่ประสบความสำเร็จ และการปล่อยฟรีนักเตะไปเป็นมูลค่ารวมเกือบ 130 ล้านปอนด์ ถึงขนาดว่าเจ้าของทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงินต้องออกมาขอโทษแฟนบอลถึงความล้มเหลวที่เกิดขึ้น
🔵 | An open letter to Evertonians from our majority shareholder, Farhad Moshiri…
— Everton (@Everton) June 8, 2022
ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ภายใต้การครอบครองของฟาฮัด โมชิรี นักเตะเข้าใหม่ในยุคของเขารวมแล้ว 43 คน เป็นแบบมีค่าตัว 31 คน รวมตัวเลข 530 ล้านปอนด์เพื่อลุ้นท็อป 6 และขณะทีมส่วนใหญ่พยายามหานักเตะอายุน้อยๆ ค่าตัวไม่แพงเข้ามา แต่ท็อฟฟี่สีน้ำเงินทำตรงกันข้าม พวกเขาพยายามทำตัวเหมือนทีมระดับท็อปโฟร์
แฟนบอลเอฟเวอร์ตันพยายามออกมาเรียกร้องในเรื่องนี้มาตลอดช่วง 3 ปีหลัง เมื่อนักเตะราคาแพงที่ซื้อเข้ามาอย่างน้อย 5 คน เช่น ยานนิค โบลาซี่จากคริสตัล พาเลช ที่ราคา 25 ล้านปอนด์หรือธีโอ วัลค็อตต์ 20 ล้านปอนด์ ถูกขายไปแบบไม่มีค่าตัว แชงค์ โตซุน 27.5 ล้านปอนด์กับกิลฟี่ ซิกูร์ดซัน 40 ล้านปอนด์ต้องปล่อยฟรีเมื่อหมดสัญญาเดือนนี้ หรือมอร์แกน ชไนเดอร์ลิน 24 ล้านปอนด์ที่ขายไปเพียง 2 ล้านปอนด์ นี่สะท้อนหายนะจากการใช้เงินของสโมสรโดยแท้.