กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดิอาระเบีย หรือ พีไอเอฟ ผ่านการพิสูจน์จากทางพรีเมียร์ ลีกได้เป็นที่เรียบร้อย ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลซาอุฯ และเจรจาในส่วนของการละเมิดลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาจากเจ้าของสิทธิ์ในตะวันออกกลางเป็นที่เรียบร้อย ทำให้มีสิทธิที่จะเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรนิวคาสเซิ่ลจากไมค์ แอชลี่ย์ได้แล้ว
Newcastle United will be in @PIF_en plans to be part of there @SaudiVision2030 . Meaning they'll want us to be a force in world football.
We're nearly there 🙏🙏🦓🦓, just need the announcement. #NUFCTakeover pic.twitter.com/KCeMviqova
— NUFCNews24 (@NUFCNews24) October 7, 2021
การเจรจาซื้อขายทีมสาลิกาดง นิวคาสเซิ่ลที่ยืดเยื้อมายาวนาน ท่ามกลางความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเหล่าของสาวกทูนอาร์มี่ ถือว่าได้ก้าวผ่านอุปสรรคสำคัญได้สำเร็จ เพราะกองทุนจากประเทศซาอุดิอาระเบียที่แสดงความสนใจและเข้ามาเจรจากับทางไมค์ แอชลี่ย์ตลอดหลายปีมานี้ ในที่สุดก็ได้ผ่านการพิสูจน์จากบริษัทพรีเมียร์ ลีกแล้วว่ามีคุณสมบัติที่เพียงพอ
การละเมิดในด้านสิทธิมนุษยชนนั้นปรากฎข้อมูลมากมายในซาอุดิอาระเบีย โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการสังหารผู้สื่อข่าว ซึ่งพีไอเอฟ สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นหน่วยงานที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ขณะเดียวกันปัญหาเรื่องการลักลอบถ่ายทอดสัญญาณกีฬา ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ืกีฬาอย่าง BeIN Sport ของกาต้าร์ ซึ่งได้รับอนุญาตเผยแพร่ในพื้นที่ประเทศตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ โจมตีว่ารัฐบาลซาอุฯ ทำการถ่ายทอดสัญญาณเถื่อนผ่านช่องทาง BeoutQ จนกลายเป็นเรื่องเป็นราวและแบนสัญญาณกันกว่าสี่ปี ได้รับการแก้ไข โดย BeoutQ ยกเลิกการถ่ายทอดและ BeIN Sport สามารถกลับมารับชมในซาอุฯ ได้ เรื่องนี้จึงเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับคุณสมบัติของ พีไอเอฟ ในการเข้ามาลงทุนกับฟุตบอลลีกเมืองผู้ดี
ตั้งแต่เมื่อ 18 เดือนที่แล้ว กองทุนจากตะวันออกกลางนี้พร้อมที่จะจ่าย 300 ล้านปอนด์ให้ไมค์ แอชลี่ย์ แต่สุดท้ายก็ต้องถอนตัวออกไปจากปัญหาต่างๆ แต่เมื่อปัญหาเรื่ิองคุณสมบัติข้อนี้ผ่าน พวกเขาก็สามารถที่จะเดินหน้าต่อไปได้
Latest: Saudi takeover of Newcastle United expected to be announced today. Staveley, the Reuben brothers and just one PIF representative expected to be on the new board. https://t.co/KxQ32ODA3g
— Martyn Ziegler (@martynziegler) October 7, 2021
“เรามีเงิน 300 ล้านปอนด์สำหรับซื้อทีม และอีก 250ล้านปอนด์ในการลงทุนทางธุรกิจกับสโมสรตลอด 5 ปีจากนี้ และส่วนหนึ่งจะเอาไปลงทุนกับประชาคมในพื้นที่ด้วย” แหล่งข่าวของกองทุนเล่า
“นี่จะเป็นจุดขายของเรา อารมณ์ร่วมของแฟนบอลสาลิกาดง ผู้คนของสโมสร และความจริงที่ว่าเราสามารถสร้างชุมชนและฟื้่นฟูสโมสรแห่งนี้ได้แน่”
ถ้าการเจรจาลุล่วงตามที่คาดว่าในเร็ววันนี้ แฟนบอลสาลิกาดงสามารถที่จะฝันยาวๆ ได้เลยเพราะทีมจะกลายเป็นสโมสรที่มีสถานภาพการเงินมั่งคั่งที่สุดในโลกเหนือกว่าทั้งแมนฯ ซิตี้หรือปารีส แซงต์-แชร์กแมงด้วย.