ฟิลลิปป์ ลาห์ม อดีตทีมชาติเยอรมันชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 เขียนคอลัมน์วิจารณ์การเลือกให้กาต้าร์เป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก 2022 ว่าคือการเลือกที่ผิดพลาด
🚨 Philipp Lahm announces he will boycott the next #WorldCup2022 in Qatar! ❌
"I will not be part of the German delegation and I have no intention to make the trip as a supporter." I'd rather stay home . Human rights must play a greater role in the allocation of competitions". pic.twitter.com/iQpQNHm5L0
— Bee Sports (@BeeSports_app) November 11, 2022
อดีตกัปตันอินทรีเหล็กวัย 39 ปี ที่ปัจจุบันทำหน้าที่หัวหน้าคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกยูโร 2024 วิพากษ์วิจารณ์ผ่านคอลัมน์ในสื่อ Zeit Online ไปยังเจ้าภาพในตะวันออกกลางอย่างหนัก เกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชนและออกความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องรักร่วมเพศด้วย
ลาห์มที่ออกตัวชัดว่าไม่ขอมีส่วนเกี่ยวข้องกับทีมชาติเยอรมัน ชุดที่ไปร่วมทัวร์นาเม้นต์ 2022 ที่กาต้าร์แม้แต่นิดเดียว และพร้อมที่จะวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องของสิทธิมนุษยชนในประเทศนั้นด้วย
“มันมีความก้าวหน้าบางอย่าง แต่เรื่องรักร่วมเพศยังคงถูกมองเป็นอาชญากรรม ผู้หญิงไม่มีสิทธิเท่าเทียมผู้ชาย และยังคงมีการจำกัดเสรีภาพของสื่อและการแสดงออก” ลาห์มกล่าว โดยไม่พลาดที่จะชี้ว่าการดูแลเกี่ยวกับแรงงานข้ามชาตินั้นเลวร้ายมาก
“ฟีฟ่าทำลายฟุตบอลและความน่าเชื่อถือในฐานะองค์กรตะวันตก ฟุตบอลไม่ใช่สิ่งที่เป็นที่นิยมในกาต้าร์ และประเทศก็ไม่ได้ยอมให้เด็กผู้หญิงเล่นด้วย”
#FIFAWorldCup | Philipp Lahm Says It Was A 'Mistake' To Award Qatar Hosting Rights
Read More Here:🔗https://t.co/qaoUtz6ztE pic.twitter.com/h6UPl42Kbd
— NewsPoint (@NP_App) November 14, 2022
ไม่ใช่แค่ลาห์มที่รู้สึกแบบนั้น แต่มีการแสดงออกเพื่อประท้วงอย่างกว้างขวางในบุนเดสลีกาและบุนเดสลีกา ทูจากแฟนๆ ที่มีความกังวลในเรื่องนี้ด้วย
กาต้าร์กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบมาตลอด โดยอดีตประธานฟีฟ่าอย่างเซ็ป แบล็ตเตอร์ ในวัย 86 ปีก็บอกว่าตอนที่ทำการโหวตมีการนัดพบกันระหว่างอดีตประธานาธิบดีฝรั่งเศส นิโกลาส์ ซาร์โกซี่ กับประธานยูฟ่า มิเชล พลาตินี่ และกลายเป็นคะแนนโหวตหลักตอนนั้น
“ประเทศนั้นเล็กจะตายไป วงการฟุตบอลและการแข่งขันฟุตบอลโลกมันใหญ่กว่าประเทศนั้นมาก” แบล็ตเตอร์ไม่เห็นด้วยกับการเลือกกาต้าร์เป็นเจ้าภาพ ซึ่งเป็นประเทศที่เล็กที่สุดนับตั้งแต่สวิสเซอร์แลนด์เป็นเจ้าภาพในปี 1954.