ราชันชุดขาวสมราคาแชมป์เก่า เหนือกว่าเชลซีทุกประตู

Chelsea lost 2-0 to Real Madrid in the Champions League quarter-final first leg.

 

สิงห์บลู เชลซี จ่อยุติเส้นทางแชมเปี้ยนส์ ลีก แค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังแพ้เรอัล มาดริดแบบสู้ไม่ได้ 2-0 พร้อมใบแดงของเบน ชิลเวลล์

 

 

สาวกเชลซีแทบจะหมดหวังจากการเห็นผลงานของทีมรักในเกมเลกแรกของแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่ทีมสิงห์บลูบุกไปเยือนซานติอาโก้ เบร์นาเบว และถูกทุบกลับมา 2-0

 

คาริม เบ็นเซม่า เบิกสกอร์ในครึ่งแรก และมาร์กอส อะเซนซิโอ้ กระทุ้งซ้ำในครึ่งหลัง พร้อมกับใบแดงของเบน ชิลเวลล์ ที่มาจากการเจตนาใช้มือดึงโรดริโก้ที่วิ่งทะลุไลน์ล้ำหน้าไว้ตรงกรอบเขตโทษ ซึ่งทำให้เจ้าตัวพลาดเกมในเลกสองไปด้วย

 

ตลอดเกมที่เบร์นาเบว ลูกทีมของแฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือชั่วคราวของเชลซี ไม่สามารถจัดการกับการเล่นเกมกดดันเร็วทั้งเกมของเรอัล มาดริดได้เลย และหวุดหวิดเสียประตูหลายต่อหลายครั้ง

 

เจา เฟลิกซ์, ราฮีม สเตอร์ลิ่งและเมสัน เม้าท์ ต่างก็มีโอกาสในการทวงประตูให้ทีมเยือน แต่การป้องกันอย่างเหนียวแน่นของโลส บลังโกส ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเจาะประตูไม่ได้ ซึ่งถ้าแนวรุกของเชลซีมีความชัดเจนกว่านี้ก็ยังพอมีหวังที่จะทำให้เกมจบด้วยผลเสมอใน 90 นาทีแรก ยิ่งการที่ทีมยิงประตูไม่ได้ในเกมนี้ แปลว่าเชลซีทำประตูใครไม่ได้มาแล้ว 374 นาที และเป็นปัญหาชัดเจนที่สุดที่แลมพาร์ดจะต้องเร่งสางก่อนเข้าเลกที่สอง

 

ก่อนเกมนี้ ท็อดด์ โบห์ลี่ เจ้าของทีมเชลซีถูกเจอที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งกับผู้อำนวยการสโมสรทั้งสองคน ซึ่งเจ้าของทีมชาวอเมริกันพูดอย่างเชื่อมั่นว่าให้แฟนบอลมีความเชื่อมั่น เพราะเชลซีจะชนะ 3-0 แต่คำพูดของเจ้าตัวถูกพิสูจน์ว่าผิดอย่างรวดเร็ว หลังจากประตูขึ้นนำในนาทีที่ 20 ของเบ็นเซม่า และเป็นประตูของอะเซนซิโอ้ที่ยกก้าวใหญ่ในการผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศให้กับทีมเรอัล มาดริด

 

 

เชลซีเกือบจะมีโอกาสดีขึ้นสำหรับเลกที่สอง หากลูกยิงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของเมสัน เม้าท์จะไม่ถูกสกัดหวุดหวิดโดยปลายสตั๊ดของอันโตนิโอ รูดิเกอร์ และแม้ว่าจะมองในแง่ดีว่าพวกเขาตามหลังแค่ 2 ประตู จากโอกาสยิงถึง 18 ครั้ง แต่มันก็ชัดเจนว่าความหวังนั้นช่างริบหรี่กับฟอร์มของเชลซีในเวลานี้ เพราะเห็นชัดว่าแชมป์เก่าถ้วยยูซีแอลอย่างมาดริดดีกว่าพวกเขามากเกินไป.

 

Scroll to Top