คาร์ล-ไฮน์ซ รุมเนนิเก้ ซีอีโอของสโมสรบาเยิร์น มิวนิค เผยว่าในตอนนี้ทางประธานฟีฟ่า อเล็กซานเดอร์ เซเฟอริน กำลังมองความเป็นไปได้ที่จะเตะศึกยูโรรอบสุดท้ายที่ประเทศเดียว แทนที่จะเล่นไปทั่วยุโรปตามแผนเดิม
ทั้งนี้ทางฟีฟ่ายืนยันว่าเกมรอบสุดท้ายจะเริ่มเตะในวันที่ 11 มิถุนายน โดยมีเมืองเจ้าภาพ 12 เมือง แต่ทันทีที่การระบาดของโควิด-19 ประทุขึ้นมาเป็นรอบที่สอง การหาประเทศเจ้าภาพเพียงชาติเดียวเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมก็ถูกคิดขึ้่นมา
FAI CEO hopeful Dublin can still host Euro 2020 matches https://t.co/h92RPmuP0E via @IrishTimesSport
— Irish Times Sport (@IrishTimesSport) January 21, 2021
“เราต้องไม่ลืมว่าความคิดในการจัดแบบกระจายไปหลายเมืองนี้ เกิดขึ้นเมื่อไม่มีโคโรนาไวรัส เป็นความคิดริเริ่มของคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปที่อยากให้ฟุตบอลได้จัดแข่งไปทั่วยุโรป ขณะที่ประธานยูฟ่าที่ให้ความระมัดระวังเรื่องการระบาดนี้ เห็นว่ามันจะไม่ดีกว่าหรือที่จะเลือกจัดเพียงประเทศเดียว ด้วยเหตุผลด้านสุขอนามัย”
รุมเมนิเก้เล่าไว้อย่างนั้นกับสื่อเมืองเบียร์
กำหนดการเดิมของยูโร 2020 ที่เลื่อนมาจัดในปี 2021 จะใช้ 12 เมืองจาก 12 ประเทศเป็นเจ้าภาพ มีลอนดอน, กลาสโกว์, อับลิน, บิลเบา, อัมสเตอร์ดัม, โคเปนเอเก้น, มิวนิค, โรม, เซ้นต์ ปีเตอร์สเบิร์ก, บูคาเรสต์, บูดาเปสต์และบากู โดยมีเกมรอบรองชนะเลิศและชิงชนะเลิศยกมาจัดที่เวมบลีย์
UEFA chiefs push ahead with plans for Wembley to host climax of Euro 2020 after being reassured by UK’s vaccination programme (Britain in Europe’s leading country re vaccinations per head of population) https://t.co/dsyV7I3Kmz
— Martyn Ziegler (@martynziegler) January 18, 2021
ในเบื้องต้นทางยูฟ่ากำลังพูดคุยกับชาติสมาชิกเกี่ยวกับทางเลือกในการดำเนินการคือ ปล่อยคนดูเข้าเต็มสนาม, 50% ความจุ, 20-30% ความจุ หรือเล่นแบบสนามปิด โดยทั้งหมดนี้น่าจะมีแนวทางชัดเจนในไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้าเพื่อให้แต่ละชาติเริ่มเตรียมการตั้งแต่มีนาคมได้
เซเฟอริน ประธานยูฟ่ากล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ความหวังในการจัดการแข่งขันแบบเดิมอยู่ที่โครงการฉีดวัคซีน แต่มันมีเรื่องของความรวดเร็วในเรื่องวัคซีนแตกต่างกันไปในแต่ละชาติเจ้าภาพ ตรงนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการคงแผนเดิมไว้.