เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ อดีตมิดฟิลด์ของยูเวนตุสมองทีมเก่าควรรีบเปลี่ยนแปลงและปลดมัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรีออกจากตำแหน่ง โดยไม่ต้องรีรอให้ถึงช่วงเบรกทีมชาติและบอลโลก
#Marchisio: "#Allegri? Non vorrei si aspettasse la pausa per cambiare. #Vlahovic non è cresciuto" https://t.co/GSU3KtMGH8
— La Gazzetta dello Sport (@Gazzetta_it) September 19, 2022
“ผมหวังว่าสโมสรจะไม่รอจนถึงเบรกของฤดูกาลนี้ที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง ทีมนี้มันดูเหมือนจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรเล่นยังไง” มาร์คิซิโอให้ความเห็นอย่างเดือดดาล
ทัพเบียงโคเนรี่กำลังอยู่ในวิกฤติหลังจากที่เกมแชมเปี้ยนส์ ลีกทั้งสองนัดจบลงด้วยความพ่ายแพ้ต่อเปแอสเชและเบนฟิก้า แถมยังชนะแค่ 2 เกมในเซเรีย อา ซึ่งเกมล่าสุดเพิ่มแพ้ให้กับน้องใหม่อย่างมอนซ่าเข้าไปอีก
ผลการแข่งขันนั้นไม่ใช่แค่สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอล แต่มันยังเตือนถึงระดับการเล่นที่ไม่แสดงออกให้เห็นความน่าประทับใจของทีม รวมถึงแต้มที่ไม่สามารถเห็บได้ด้วย
ในขณะที่บอร์ดสโมสรยูเวนตุสยังคงหนุนหลังอัลเลกรีต่อไป แต่มาร์คิซิโอ้คิดว่ามันได้เวลาที่สมควรเปลี่ยนแปลงแล้ว
All of juventus fans who will actually support juventus vs monza pic.twitter.com/AHPuqap9k8
— Dragon (@juventini94juve) September 17, 2022
“ปัญหาน่ะมันไม่ใช่แค่ว่ายูเวนตุสแพ้ ความพ่ายแพ้มันเกิดขึ้นได้ แต่การที่แพ้มอนซ่าแบบยิงไม่เข้ากรอบแม้แต่ลูกเดียวนี่มันเกินไป มันเห็นชัดเลยว่าทีมเชื่อมกันไม่ได้ ทั้งผู้เล่น โค้ชและสโมสร” มาร์คิซิโอ้จัดเต็มเมื่อไปออกรายการทีวีทางช่องไร
ในเกมกับมอนซ่านั้นแม้ แองเจล ดิ มาเรีย โดนใบแดงก็ยังไม่สามารถเอามาเป็นข้ออ้างในความพ่ายแพ้สำหรับมาร์คิซิโอได้อยู่ดี
“ด้วยขุมกำลังที่แข็งแกร่ง คุณสามารถพูดได้ว่าต่อให้เหลือ 10 คนก็ยังสร้างเกมได้ แต่ยูเวนตุสทีมนี้เล่นไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะเล่นอะไร มันน่าเป็นห่วงมาก”
มาร์คิซิโอที่ยึดมั่นอยู่เป็นหลักในทีมที่โดนลดชั้นไปเล่นเซเรีย ซี จนได้กลับมาสู่เวทีสูงสุดอีกครั้งและผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากของทีมที่เคยคว้าแชมป์ต่อเนื่องเป็นทศวรรษได้
“ยูเว่จบที่เจ็ดเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ไม่มีใครพูดว่ามันน่าเป็นห่วงนะ มันเป็นคำที่ลีโอนาร์โด้ โบนุชชี่เคยพูด ถ้าคุณมองไปที่ดูซาน วลาโฮวิช เขายังไม่พัฒนาขึ้นเท่าไหร่ตั้งแต่ย้ายมาจากฟิออเรนติน่า”
ด้วยการที่ปีนี้จะมีฤดูกาลที่แตกต่างจากปกติ โดยมีฟุตบอลโลกมาคั่นกลางในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม ซึ่งก็จะเหลือแค่ไม่กี่เกมก่อนจะเป็นเบรกยาว ทำให้มาร์คิซิโอมองว่าสโมสรเหมือนจะรอเวลาให้ถึงเบรคค่อยคิดขยับตัว และหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น.