ทีมชาติโครเอเชียกลายเป็นที่มี่ได้รับรางวัลปลอบใจจากการคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลกที่กาต้าร์ แต่โมร็อกโกก็ยือดออกได้เต็มที่เช่นกัน
Croatia have qualified for six World Cups and they've medaled in three of them.
Incredible for a nation of four million people👏🇭🇷 pic.twitter.com/2ty8r2pODk
— B/R Football (@brfootball) December 17, 2022
เกมนัดชิงที่ 3 ของศึก ฟุตบอลโลก ที่คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี่ยม ต่างไปจากการเจอกันในเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มที่จบด้วยผลเสมอ 0-0 ชนิดหน้าเป็นหลังมือ
โครเอเชียออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 หลังจากที่จอซโก้ กวาร์ดิโอลพุ่งโหม่งลูกครอสเข้ามาของอิวาน เปริซิซเข้าไปตั้งแต่ 7 นาทีแรก ทว่าแค่สองนาทีให้หลัง อัคราฟ ดารี่ ผู้ลเนโมร็อกกได้โหม่งในจังหวะเคลียร์บอลไม่ขาดของทีมตราหมากรุก ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอย่างรวดเร็ว
เกมสู้กันสนุกเร้าใจแต่เป็นโครเอเชียที่มาได้ประตูจากลูกยิงสุดสวยจากฝั่งซ้ายไปกระทบเสาไกลของมิสลาฟ ออร์ซิซ ในนาทีที่ 42 โครเอเชียเก็บความได้เปรียบก่อนจบครึ่งแรก
เกมครึ่งหลังที่ต่างก็ต้องการทำประตูด้วยกันทั้งคู่ทำให้เกมสนุกและเดือดขึ้นเป็นลำดับ โมร็อกโกได้ลุ้นจากโอกาสใกล้เคียงที่จะเป็นจุดโทษจากจังหวะล้มของอัคราฟ ฮาคิมี่ แต่กรรมการในสนามมองเป็นการพุ่งล้ม
Morocco finish fourth at the World Cup—the highest position ever by an African team 🌍🇲🇦 pic.twitter.com/T4sA09AXiA
— B/R Football (@brfootball) December 17, 2022
เกมลุ้นยาวจนครบ 90+7 นาทีเสียงนกหวีดยาวจากผู้ตัดสินเป็นการประกาศว่าโครเอเชียได้รางวัลปลอบใจ ขณะที่ฝั่งผู้แพ้อย่างโมร็อกโกมีเรื่องราวเล็กน้อยจากอาการค้างคาใจที่ไม่ได้จุโทษในนาที 76
แต่ถึงอย่างนั้นโมร็อกโกก็ได้รับความชื่นชมอย่างสูงจากการเข้ามาไกลถึงรอบรองชนะเลิศได้เป็นชาติแรกของ ตัวแทนทวีปแอฟริกา.