ฟีฟ่าประกาศรายชื่อทั้ง 16 เมืองที่จะได้เป็นเจ้าภาพสนามฟุตบอลโลก 2026 ใน 3 แผ่นดินทั้งสหรัฐอเมริกา, แคนาดาและเม็กซิโก
Monterrey's stadium selected to host 2026 World Cup games.
You love to see it 🤩🇲🇽 pic.twitter.com/idaJCTsJ9Z
— ESPN FC (@ESPNFC) June 16, 2022
จิอันนี่ อินฟานติโน่ ประธานฟีฟ่าได้แถลงการณ์ที่น่าตื่นเต้นถึงเป้าหมายของการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่สุดของโลกในปี 2026 ซึ่งอเมริกาเหนือเป็นเจ้าภาพร่วม พร้อมกับเปิดเผย 16 เมืองที่ได้รับโอกาสสำคัญ
อีก 4 ปีข้างหน้าก่อนที่ฟุตบอลจะมาถึงแคนาดา, เม็กซิโกและสหรัฐอเมริกา มีผู้ชานะและผู้พ้ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพสนามไปแล้ว โดยคราวนี้มีชื่อของแอตแลนต้า, ฮูสตัน, ไมอามี่, ฟิลาเดลเฟีย, ซีแอตเทิ่ล, แคนซัส ซิตี้ และมิสซูรี่ เป็นเหล่าเมืองที่เคยอกหักจากตอนบอลโลก 1994
บัลติมอร์, ซินซินเนติ, เดนเวอร์, นาชวิลล์, เท็นเนสซี่, ออร์แลนโด้, ฟลอริด้าต่างก็ต้องพบกับความอกหัก
จากจำนวนทั้งหมดมีสนามเก่าตั้งแต่คราวบอลโลก 1994 ที่อเมริกาเป็นเจ้าภาพครั้งนั้นเพียงแค่ อาร์ลิงตันในเท็กซัส, อีสต์ รัทเธอร์ฟอร์ดในนิวเจอร์ซี่, ฟ็อกซ์โบโร่ที่แมสซาชูเซ็ตต์ และอิงเกิ้ลวู้ดกับซานตา คลาร่าในแคลิฟอร์เนีย
สามเมืองในเม็กซิโกได้รับการยืนยันโอกาสของตัวเอง เอสตาดิโอ เอซเตก้ากับการจัดบอลโลกครั้งที่ 3 เป็นสนามแรก, เอสตาดิโอ อัครอนในกัวดาราฆาร่าและเอสตาดิโอ บีบีวีเอในมอนเตอเร่ย์
ที่แคนาดา บีโอเอ็ม ฟิลด์ในโตรอนโต้และบริติซ โคลัมเบีย เพลซในแวนคูเวอร์ได้รับหน้าที่การมีส่วนเป็นเจ้าภาพบอลโลกครั้งแรกของประเทศ โดยที่อัลเบอร์ต้า คอมมอนเวลท์ สเตเดี่ยมในเอ็ดมอนตันอกหัก
FIFA confirm the 16 cities across the USA, Canada and Mexico that will host the 2026 World Cup 🏆
▪️ Vancouver
▪️ Seattle
▪️ San Francisco Bay Area
▪️ Los Angeles pic.twitter.com/LB5TPBE7Hq— B/R Football (@brfootball) June 16, 2022
อินฟานติโน่สัญญาว่าจะมีงานแฟนเฟสติวัลในสามประเทศโดยเฉพาะที่เนชั่นมอลล์ วอชิงตัน ดีซี และสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นเมืองที่เหล่าทีมชาติไปเก็บตัวซ้อม
เป้าหมายใหญ่ที่ทางฟีฟ่าตั้งธงไว้คือหลังปี 2026 ฟุตบอลจะเป็นกีฬาอันดับหนึ่งของอเมริกาให้ได้ แม้ว่าอัตราการเข้าชมเกมเอ็นเอฟแอลในปี 2021 ที่จบไปทั้งทางทีวีและดิจิตัลจะสูงถึง 17.1 ล้านวิว ขณะที่บอลโลก 2018 อยู่ที่ 5.04 ล้านวิวเท่านั้นในช่องภาษาอังกฤษและสเปน.