ฟิลิปป์ ลาห์ม อดีตกัปตันทีมบาเยิร์น มิวนิคและทีมชาติเยอรมันจะบอยคอตฟุตบอลโลก 2022 ที่กาต้าร์ เพราะชาติเจ้าภาพยังคงดำเนินงานในด้านสิทธิมนุษยชนได้อย่างย่ำแย่
Philipp Lahm says he will be boycotting the 2022 World Cup in Qatar. pic.twitter.com/RSDg8JLwMk
— ESPN FC (@ESPNFC) August 9, 2022
ฟีฟ่าเองโดนวิพากย์วิจารณ์หนักมากสำหรับทัวร์นาเม้นท์ที่จะเกิดขึ้นปลายปีนี้ โดยมันเริ่มต้นตั้งแต่หลังจากประเทศที่มีประชากรแค่ 2 ล้านกว่าคนได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพรายการใหญ่สุดของวงการฟุตบอล แถมยังไม่เคยเข้ารอบบอลโลกมาก่อน
ประเทศกาต้าร์ที่วันประกาศได้เป็นเจ้าภาพบอลโลกอยู่ในอันดับ 113 ของแร้งกิ้ง ทำการย้ายช่วงเวลาเตะบอลโลกออกไปไว้ในช่วงหน้าหนาวเพื่อแก้ปัญหาเรื่องความร้อนของที่ตั้งประเทศ ขณะที่ข้อมูลบันทึกเกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชนของกาต้าร์ และการปฏิบัติต่อแรงงานข้ามชาติถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง
ฟิลิปป์ ลาห์ม ผู้ซึ่งเคยชูถ้วยบอลโลก 2014 ที่บราซิล และที่ทำหน้าที่ให้กับสมาคมฟุตบอลเพื่อเตรียมทีมชาติลุยยูโร 2024 บอกว่าเขาจะไม่สนใจบอลโลกหนนี้
“ผมไม่ได้อยู่ในทีมงานที่จะไปบอลโลกหนนี้ และจะไม่ไปที่นั่นในฐานะแฟนบอลด้ว”” ลาห์มบอกกับทางสื่อคิกเกอร์
“สิทธิมนุษยชนควรเป็นประเด็นสำคัญในการตัดสินใจว่าใครควรเป็นเจ้าภาพ หากประเทศที่ได้รับมอบหมายสิทธิ์นี้ไปเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผลงานแย่ที่สุดในเรื่องนี้ คุ๊ก็ควรเริ่มนึกถึงการเอาเกณฑ์นี้มาร่วมตัดสินใจ”
“มันจะต้องไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีกในอนาคต สิทธิ์มนุษยชน ความยั่งยืน ขนาดของประเทศ ไม่มีเรื่องไหนเลยที่เหมือนถูกใช้คิดเห็นเหตุผลในการตัดสินใจ”
Migrants building a state-of-the-art stadium for the 2022 football World Cup in #Qatar are abused and exploited – they can’t change jobs, they can’t leave the country and they often wait months to get paid. https://t.co/uv9afSYwPB @EssexPR @amnesty @Rothna_Begum pic.twitter.com/94NS1bt49p
— Ankara Voice (@AnkaraVoice) August 3, 2022
ในปี 2021 เดอะ การ์เดี้ยนเคยรายงานว่ามีแรงงานอพยพกว่า 6,500 คนเสียชีวิตในกาต้าร์ ซึ่งตั้งแต่ประกาศให้กาต้าร์เป็นเจ้าภาพบอลโลกเมื่อ 12 ปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิต 37 รายที่เชื่อมโยงกับการสร้างสนามกีฬาสำหรับบอลโลกหนนี้
ขณะเดียวกันรายงานของแอมนาสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลก็ยังบอกว่า กาต้าร์ยังคงจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกด้วยกฏหมายที่ไม่เหมาะสม เพื่อระงับเสียงวิจารณ์ต่างๆ รวมถึงการควบคุมเสรีภาพผู้หญิงและกลุ่ม LGBTQ+ ด้วย.