ฝรั่งเศสและอังกฤษต่างผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศของศึก ฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จ ทำให้เส้นทางของทั้งคู่ได้เจอกันเป็นครั้งแรกในเกมรอบน็อกเอ้าท์
For the first time ever, England and France will face off in the knockout stage of a men's FIFA World Cup 🏴🇫🇷👀
Who is coming out on top? pic.twitter.com/Z3Y7tBHNal
— FOX Soccer (@FOXSoccer) December 4, 2022
แชมป์เก่าและแชมป์โลก 2 สมัย ฝรั่งเศสจะพบกับทีมชาติอังกฤษ อดีตแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 และรองแชมป์ยุโรปปีล่าสุด ซึ่งกลายเป็นเกมบิ๊กแมตช์ประจำรอบไปโดยปริยาย
ทั้งสองทีมเจอกันในทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลโลกมา 2 ครั้ง เป็นเกมรอบแบ่งกลุ่มปี 1966 ที่อังกฤษชนะไป 2-0 และก้าวไปถึงการเป็นแชมป์ ขณะที่ในปี 1982 ที่โปรตุเกส ฝั่งอังกฤษก็เอาชนะได้อีก 3-1
ส่วนเกมในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบสุดท้าย อังกฤษกับฝรั่งเศสมาอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกันในปี 1992, 2004 และ 2012 ซึ่งฝรั่งเศสเอาชนะได้ 1 เกมและเสมอกันไป 2 เกม
นั่นหมายความว่าทั้งทีมชาติอังกฤษและทีมชาติฝรั่งเศสยังไม่เคยเจอกันในรอบน็อกเอ้าท์ทัวร์นาเม้นต์ใหญ่มาก่อนในประวัติศาสตร์ และกาต้าร์ 2022 จะเป็นศึกใหญ่ในการจารึกชื่อว่าต้องมีผู้ชนะ 1 ทีม
โอลิวิเยร์ ชิรูด์เพิ่งยิงประตูในนามทีมชาติแซงสถิติของเธียร์รี่ อองรีที่ 42 ประตู โดยคิลิยัน เอ็มบัปเป้กำลังฟอร์มร้อนแรง ทำไป 9 ประตูจาก 11 เกมฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย แถมยังมีสถานะเป็นแชมป์เก่าของรายการนี้
ENGLAND VS. FRANCE IN THE QUARTERFINALS 👀🍿 pic.twitter.com/0K2Frk3KAU
— ESPN FC (@ESPNFC) December 4, 2022
แต่อย่างไรก็ตามอังกฤษก็มีดีกรีที่ยอดเยี่ยมจากการเป็นรองแชมป์ยุโรปหมาดๆ โดยที่ชัยชนะ 3 ใน 4 เกมหลังสุดเป็นการยิงคู่แข่งได้ 3 ลูกขึ้นไป โดยกัปตันทีม แฮร์รี่ เคน อยู่ในจังหวะการเล่นที่ดีมากตลอดทั้ง 3 เกมของรอบแบ่งกลุ่ม รวมถึงเกมกับเซเนกัล ทั้งยังมีสองดาวรุ่งจู๊ด เบลลิงแฮ่มและฟิล โฟเด้นที่ดีขึ้นมาอย่างถูกที่ถูกเวลา
เกมรอบก่อนรองชนะเลิศ ระหว่างทีมชาติฝรั่งเศสกับทีมชาติอังกฤษจึงถูกยกให้เป็นเกมที่น่าสนใจที่สุดทันที แม้ว่าคู่แรกทางเนเธอร์แลนด์จะเจอกับอาร์เจนติน่าจะเป็นเกมใหญ่เช่นกันก็ตาม.