ปารีส แซงต์-แชร์กแมงกับโปเช็ตติโน่ เหมือนจะไม่ใช่คู่ที่ถูกต้อง

 

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กำลังตกเป็นที่สงสัยว่าจะใช้ผู้จัดการทีมที่ถูกต้องของปารีส แซงต์-แชร์กแมงหรือไม่ แม้ผลงานตั้งแต่เปิดฤดูกาลจะยังดีอยู่ แต่ความสัมพันธ์ในทีมเหมือนจะผิดจากที่ทุกคนอยากได้เห็นไปมาก

 

 

หลังจากที่พาสเปอร์เปลี่ยนจากขาประจำของยูโรป้า ลีกมาอยู่ในเวทีแชมเปี้ยนส์ ลีกติดต่อกันห้าฤดูกาล ซึ่งการบินสูงของสเปอร์ภายใต้การชีั้นำของกุนซืออาร์เจนไตน์ ทำให้เจ้าตัวถูกลือหนักมากในการย้ายไปคุมทีมใหญ่ทั้งเรอัล มาดริดและแมนฯ​ ยูไนเต็ด แต่ว่าหลังจากนั้นแค่ปีเดียว กลายเป็นเขาที่โดนปลดออกจากทีมในย่านลอนดอนเหนือ

 

เมื่อปารีส แซงต์-แชร์กแมงเลือกโปเช็ตติโน่เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม มีเพียงเป้าหมายเดียวที่กุนซืออาร์เจนติน่าต้องพาทีมไปถึงคือการเป็นแชมป์ยุโรป

 

ในฤดูกาลแรกของโปเช็ตติโน่ ทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ โดยระหว่างทางนั้นเขี่ยทั้งบาร์เซโลน่าและบาเยิร์น มิวนิค แต่ก็ไปต่อไม่ได้เมื่อเผชิญหน้ากับแมนฯ​ ซิตี้ ที่ทีมจากปารีสของโปเช็ตติโน่ยังไม่ดีพอจะเอาชนะได้

 

ขณะเดียวกันเวทีลีก เอิง ที่น่าจะเป็นของตายสำหรับทีมเบอร์หนึ่งเมืองน้ำหอม กลายเป็นบทสรุปที่พลิกล็อกเพราะปารีส แซงต์-แชร์กแมงเสียท่าให้กับสโมสรลีลล์ มีเพียงถ้วยแชมป์ของบอลถ้วยสองรายการเท่านั้นเป็นเครื่องปลอบใจ

 

หลังการเซ็นสัญญาของผู้เล่นระดับท็อปบนสุดของโลกอย่างลิโอเนล เมสซี่ ทั้งโลกต่างจับจ้องว่าเปแอสเชจะพุ่งขึ้นไปสูงได้ถึงจุึดไหน และมันก็น่าสงสัยว่าเปแอสเชที่เพิ่งแพ้เพียงเกมเดียวในฤดูกาลนี้ มันยังไม่มีสัญญาณของอนาคตทีมที่สดใสนัก

 

ปัญหาที่ถูกให้ความสนใจมากว่าโปเช็ตติโน่อาจจะมือไม่ถึงพอ เป็นเรื่องของการจัดการบรรดาแข้งระดับซุปเปอร์สตาร์ภายในทีม โดยเฉพาะกับดาวเด่นทั้งสามคน เนย์มาร์, คิลิยัน เอ็มบัปเป้และลิโอเนล เมสซี่ เพราะในอุดมคติที่วาดฝันไว้ คือการเล่นแบบสนับสนุนกันและกันของผู้เล่นดังทั้งสามราย แต่ที่เป็นไปจริงๆ กลายเป็นเรื่องของการเล่นแบบตัวใครตัวมันมากเกิน ซึ่งมันไม่ใช่แนวทางที่โปเช็ตติโน่ใช้มาตลอดชีวิตสำหรับการเล่นแบบเพรสซิ่ง

 

 

เกมที่สร้างความประทับใจล่าสุดในการล้างแค้นเอาชนะแมนฯ​ ซิตี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วของเปแอสเช ด้วยการเบียดเอาชนะทีมของเป๊บไปได้ แต่ที่ถูกพูดถึงพอสมควรกลับเป็นแผนการเล่น 7-0-3 ของทีมลีก เอิง

 

การยอมรับต่อฝีมือของโปเช็ตติโน่ในการทำทีมอาจจะเป็นเชิงบวก แต่ดูเหมือนว่ามันอาจจะไม่เพียงพอในการทำให้ทีมที่เต็มไปด้วยผู้เล่นระดับท็อปที่ต่างประสบความสำเร็จระดับสูงให้กลายเป็นทีมเดียวกันภายใต้อิทธิพลของเขา และน่าจะเป็นคนอื่นที่จะสามารถทำได้ อาจจะเป็นซีเนอดีน ซีดาน หรือคาร์โล อันเชลล็อตติ.

 

Scroll to Top