ดราม่าจนจบทัวร์นาเม้นต์ของกระทิงดุ สวิส 10 ตัวชวนบู๊ยันฏีกา

 

ทีมชาติสเปนยังคงโชว์ผลงานคาดเดาไม่ได้ได้อย่างคงเส้นคงวา โดยในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่เซ้นต์ ปีเตอร์เบิร์ก ลูกทีมของหลุย เอ็นริเก้ต้องเหนื่อยอีกครั้งเมื่อสวิสเซอร์แลนด์คู่แข่งไม่ยอมตายง่ายๆ แม้จะเหลือ 10 คน ก่อนจะยื้อไปจนจุดดวลโทษ

 

 

สเปนที่มากันฟูลทีมเจอกับสวิสเซอร์แลนด์ที่ขาดกรานิต ชาก้า ตัวเก่งซึ่งติดโทษแบน เกม และเป็นสเปนที่มาได้ประตูแบบมีโชคอย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 8 จากจังหวะต่อเนื่้องลูกเตะมุม ฆอร์ดี้ อัลบ้า เติมมาช่วยเกมรุกได้ยิงจากนอกเขตโทษ บอลที่ตรงตัวแยนน์ ซอมเมอร์ถูกเดนิส ซากาเรียที่หวังจะสกัดเหยียดขาแตะโดนบอลเปลี่ยนทิศ

 

รูปเกมหลังขึ้นนำ 1-0 ของสเปนจนจบครึ่งแรกแทบจะเป็นการครองบอลฝั่งเดียว แถมมีโอกาสได้ประตูเพิ่มแต่แยนน์ ซอมเมอร์ นายทวารสวิสเซอร์แลนด์ยังโชว์ฝีมือเก็บไว้ได้หมด เปอร์เซ็นต์การครองบอลหลัง 45 นาทีอยู่ที่ฝั่งสเปน 70 ต่อ 30 เปอร์เซ็นต์

 

ความไม่เด็ดขาดของสเปน และการทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมของแยนน์ ซอมเมอร์ ทำให้สวิสเซฮร์แลนด์ยังคงมีความหวัง หลังจากเล่นรอโอกาสอย่างอดทน เมื่อมาถึงนาที 68 แนวรับของสเปนเคลียร์บอลไม่ขาด เปา ตอร์เรสที่ลงมาช่วยป้องกันไปขวางทางบอลของอายเมอริก ลาป็อตต์ ที่พยายามสกัดออกไปจากเขตโทษ​ บอลย้อนกลับมาเข้าทางเรโม่ ฟรือเล่อร์ ที่แตะต่อมายังเชอร์ดาน ชากิรี่ ซึ่งกองหน้าจากรั้วแอนฟิลด์ยิงยัดไปเสาไกลให้ทีมตามมาตีเสมอ 1-1

 

สเปนที่นำอยู่ดีๆ ต้องมาเน้นเกมรุกมากขึ้น แถมยังมาได้เปรียบผู้เล่นอีก ในนาที 77 เรโม่ ฟรือเล่อร์ไปเปิดปุ่มใส่เกราร์ด โมเรโน่ โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่ทัพกระทิงดุก็ไม่สามารถฉวยจังหวะที่ได้เปรียบส่งบอลผ่านมือแยนน์ ซอมเมอร์ ที่วันนี้เหนียวเป็นพิเศษ จนกระทั่งครบ 90 นาทีและช่วงต่อเวลาออกไปอีก 30 นาทีด้วย

 

 

สวิสเซอร์แลนด์ได้ดวลจุดโทษเป็นครั้งที่สองในทัวร์นาเม้นต์ ส่วนสเปนก็ทำตัวเองให้ลำบาก แถมเซร์คิโอ บุสเก็ตส์ยังเปิดหัวด้วยการยิงไปโดนโคนเสาอีก

 

หลังจากที่มาริโอ กาวราโนวิชและดานี่ ฮัลโม่ต่างยิงเข้า สวิสเซอร์แลนด์นำ 2-1 ฟาเบียน ชาร์ ก็มายิงติดเซฟของอูไน ซิม่อนบ้าง และเป็นฝั่งสวิสเซอร์แลนด์ที่ยิงไม่เข้าต่อกันทั้งมานูเอล อาคันจิที่ยิงเบาไปติดเซฟและรูเบน วากาสที่ซัดเหินข้ามคาน จังหวะเป็นใจให้สเปนได้ไปต่อเมื่อมิเกล โอยาร์ซาบัลไม่พลาดกดด้วยซ้ายขณะที่แยนน์ ซอมเมอร์พุ่งผิดทาง

 

กระทิงดุที่ฟอร์มไม่อยู่กับร่องกับรอย สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศแบบหายใจกันไม่ทั่วท้อง ทำให้ทีมของหลุย เอ็นริเก้ ได้เดินหน้าสร้างความตื่นเต้นที่คาดเดาไม่ได้ต่อไปในทัวร์นาเม้นต์นี้.

 

Scroll to Top