สองประตูจากนิโคโล่ บาเรลล่าและลอเรนโซ่ อินซินเญ่ ในครึ่งแรกที่มิวนิค นำพาทีมชาติอิตาลีให้ยังคงร้อนแรงต่อไป และพิสูจน์ความเป็นของจริงได้เสียที เมื่อเอาชนะเบลเยี่ยมชุดที่เต็มไปด้วยผู้เล่นโกลเด้น เจนเนอเรชั่น 2-1 ต่อสถิติไม่แพ้ใครเป็น 32 นัด
I love the way Italians defenders celebrate a clearance like a goal (which it is exactly equivalent to mathematically) #ItalyBelgium pic.twitter.com/vslUyaZcnj
— Shane O'Farrell (@shanefofarrell) July 2, 2021
ก่อนเกมที่อลิอันซ์ อารีน่าในนครมิวนิค เยอรมัน ที่รัสเซีย สเปนเพิ่งดวลจุดโทษชนะสวิสเซอร์แลนด์ได้หมาดๆ ได้เข้าไปยืนรอในรอบรองชนะเลิศก่อนแล้ว
เริ่มเกมมา 13 นาที เลโอนาโด้ โบนุชชี่ส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่าย แต่กรรมการเช็ค วีเออารืให้เป็นจังหวะล้ำหน้า อิตาลีพลาดการขึ้นนำ โดยที่รูปเกมต่างมีโอกาสเข้าถึงพื้นที่ทำการได้พอกัน แต่อิตาลีดูดีกว่า มีจังหวะยิงแบบได้ลุ้น
เกมบุกอันเป็นเอกลักษณ์ของทีมอิตาลี ภายใต้การคุมทีมของโรแบร์โต้ มันชินี่มาเป็นผลสำเร็จ เมื่อบอลเคลียร์ออกมาของแนวรับเบลเยี่ยมไม่ดีพอ มาร์โค แวร์รัตติตัดได้ ก่อนไหลให้นิโคโล่ บาเรลล่าพุ่งทะลุเข้าเขตโทษแล้วหวดผ่านธิโบต์ กูร์ตัวเข้าไป อิตาลีนำ 1-0 ในนาที 31
เกมขยับมาถึงนาที 44 โลเรนโซ่ อินซินเญ่ แต่งบอลหนีตัวประกบ ตัดเข้ามาแถวเขตหัวกะโหลก ก่อนเห็นว่าโธมัส แฟร์มาเล่นไม่เข้ามาบล็อก เลยฉวยจังหวะปั่นโค้งเข้าเสาสองอย่างงดงาม อิตาลีนำ 2-0 ได้ไม่กีอึดใจ เบลเยี่ยมก็ตามมาเป็น 2-1 จากจุดโทษของโรเมลู ลูกากู หลังจิโอวานนี่ ดิ โลเรนโซ่ไปผลักเฌเรมี่ โดกู สกอร์ครึ่งแรก 2-1
Semifinals for Italy 🙌
Heartbreak for Belgium 💔 pic.twitter.com/iyA6srDw09— FOX Soccer (@FOXSoccer) July 2, 2021
เกมในครึ่งหลังต่างฝ่ายต่างงัดจังหวะการเล่นเพื่อทำประตูเข้าใส่กันแบบหมัดต่อหมัด อิตาลีพลาดโอกาสจากเลโอนาร์โด สปินาซโซล่าชาร์ตไม่โดน, อินซินเญ่ที่ปั่นเกือบเข้าเสาไกล เช่นเดียวกันกับที่เฌเรมี่ โดกูของเบลเยี่ยมที่สร้างโอกาสจนได้ช่องยิงแต่ข้ามคานได้ และจังหวะที่ลูกากูแปเน้นๆ เสาไกลแต่ติดต้นขาสปินาซโซล่า
อิตาลีกับเบลเยี่ยมสร้างอีกหนึ่งเกมระดับห้าดาวสำหรับทัวร์นาเม้นต์นี้ แต่ขุนพลแดนรองเท้าบู๊ตที่เฉียบคมกว่าจากโอกาสที่มี ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ หลังจากที่ออกสตาร์ทโปรเจคของโรแบร์โต้ มันชินี่มาตั้งแต่ตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018
อิตาลีชนะมา 13 เกมติด ไม่แพ้ใครมา 32 เกม พร้อมกับลบข้อสงสัยว่าอิตาลีแข็งแกร่งจริงหรือเพราะยังไม่เจอทีมแกร่งกันแน่ รวมไปถึงการสร้างความจดจำใหม่สำหรับแฟนบอล ในฐานะทีมที่มีเกมรุกอันดุดันล้างภาพลักษณ์เน้นเล่นเกมรับจนน่าเบื่อของอิตาลีที่เป้นมาได้จนหมด.