กุล่ม C : ทีมชาติออสเตรีย เป้าหมายแรกชนะสักครั้งในยูโรรอบสุดท้าย

 

ฟรานโก้ โฟด้า มีงานใหญ่ที่ไม่ใช่การคว้าแชมป์เพราะมันเป็นเรื่องไกลเกินเอื้อม แต่เขาต้องทำอะไรบางอย่างกับการอยู่ร่วมกลุ่มที่มีเนเธอแลนด์,​ ยูเครนและนอร์ทมาเซโดเนียนี้

 

จริงอยู่ว่าแม้จะไม่สามารถวางออสเตรียไว้ในกลุ่มขาใหญ่วงการบอลยุโรป แต่มันก็น่าเซอร์ไพรซ์ที่ได้พบว่าออสเตรียไม่เคยชนะเกมในรอบสุดท้ายของทัวร์นาเม้นต์ประจำภูมิภาคนี้เลยแม้แต่เกมเดียว

 

ออสเตรียเข้าร่วมในรอบสุดท้ายมาแค่ 2 ครั้งในปี 2008 ด้วยฐานะเจ้าภาพ และอีกครั้งในปี 2016 แต่ก็ตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยการมีแต้มร่วมทั้งสองหนแค่ 2 คะแนน และทำไปเพียง 2 ประตู

 

 

แผนการเล่นหลัก 4-2-3-1/3-5-2

 

ผู้รักษาประตู พาวาว เพอร์วาน นายทวารจากโวล์ฟบวร์ก,​อเล็กซานเดอร์ ชาล์เกอร์จากแอลเอเอสเค ร่วมด้วยดาเนี่ยล บาชมันน์จากวัตฟอร์ด มีประสบการณ์ทีมชาติรวมกัน 15 นัด น้อยที่สุดในบรรดาทีมเข้าร่วมทั้งหมด

 

แนวรับ อเล็กซานเดอร์ ดราโกวิชจากเลเวอร์คูเซ่นจะเป็นแกนหลัก ร่วมด้วยเดวิด อลาบา ดีกรีแชมป์ยุโรปร่วมกับบาเยิร์น มิวนิค พร้อมด้วยตัวเลือกดีๆ อย่างมาร์ติน ฮินเตอร์เรกเกอร์ของแฟร้งค์เฟิร์ต โดยมีดาวรุ่งตัวเสริมทั้งฟิลลิปป์ เลียนฮาร์ตจากไฟร์บวร์ก, สเตฟาน พอร์ชจากฮอฟเฟ่นไฮม์และมาร์โก ฟรีเดลของแวร์เดอร์เบรเมน

 

แบ็คซ้าย อันเดรส อูลเมอร์ แบ็คขวา สเตฟาน ไลน์เนอร์เป็นตัวหลัก โดยมีตัวเก๋าอย่างคริสโตเฟอร์ ทริมเมลรอลงเล่นแทนได้ทั้งสองฝั่ง

 

มิดฟิลด์ตัวรับ กัปตันทีมจูเลี่ยน บูมการ์ตลินเกอร์จากเลเวอร์คูเซ่น รับหน้าที่มือแรก และมีตัวเลือกมาสองคนฟลอเรี่ยน กริลลิตช์จากฮอฟเฟ่นไฮม์และสเตฟาน อิลเซงเกอร์จากแฟร้งเฟิร์ต

 

มิดฟิลด์ฝั่งซ้าย มาร์เซล ซาบิทเซอร์ จากไลป์ซิกและคริสโตเฟอร์ บูมการ์ตเนอร์ของฮอฟเฟ่นไฮม์เป็นสองตัวเลือก ส่วนทางขวาเป็นอเลสซานโดร ชอป์ฟจากชาลเก้หรือหลุย ชู๊บจากลูเซิร์นและวาเลนติโน ลาซาโร่จากมึนเช่นกลัดบัค คนใดคนหนึ่ง ขณะที่คอนราด ไลเมอร์แข้งไลป์ซิกเป็นอะไหล่ตรงกลาง

 

คู่กองหน้า วางมาร์โก อเนาโตวิชที่ปัจจุบันเล่นกับเซียงไฮ้ พอร์ท เจ้าของสถิติ ยิงสูงสุด 26 ประตูเป็นหัวหอก คู่กับมิคาเอล กรีกอริตช์ ดาวยิงของอักบวร์ก โดยใช้งานซาซา คาราจด์ซิชจากสตุ๊ดการ์ทและคาริม โอนิซิโวจากไมน์ 05 เป็นตัวเลือก

 

 

โปรแกรมการแข่งขัน

 

ออสเตรียจะลงเล่นกับนอร์ท มาเซโดเนีย ในวันที่ 13 มิถุนายนที่บูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย และข้ามไปอัมสเตอร์ดันเพือ่เล่นกับฮอลแลนด์ ในวันที่ 17 มิถุนายน จากนั้นกลับมาเล่นที่บูคาเรสต์อีกครั้งด้วยการพบยูเครน ในวันที่ 21 มิถุนายน

 

ภาพรวมทีม

 

ถ้าเป้าหมายแรกของการลงเล่นรอบสุดท้ายเป็นการหาชัยชนะนัดแรกให้เจอ ออสเตรียก็มีสิทธิ์ที่จะทำได้เมื่อเจอกับสมัยน้อยอย่างนอร์ท มาเซโดเนีย และมันอาจจะกลายเป็นแรงส่งที่จะพาทีมทำผลงานดี กับการเจอสองทีมแกร่งทั้งฮอลแลนด์และยูเครนในสองเกมที่เหลือได้ แม้ว่าการเตรียมทีมก่อนเข้ารอบสุดท้ายจะพ่ายยับแบบยิงใครไม่ได้เลยก็ตาม

 

ออสเตรียต้องหวังว่าแนวรุกของพวกเขาจะสามารถจบสกอร์ได้มีประสิทธิภาพบ้าง เพราะด้วยศักยภาพที่ค่อนข้างแคบและมีแค่แนวทางเดียวจากกลุ่มผู้เล่นที่อยู่ในเยอรมันเกือยจะทั้งหมด ฟรานโก้ โฟด้าจะใส่แท็คติกที่มันเซอร์ไพรซ์คงเป็นไปได้ยาก ดังนั้นออสเตรียจึงเป็นทีมที่จะถูกดักทางเล่นได้งาน พวกเขาต้องตั้งรับให้เหนียวแน่น และใช้โอกาสให้เป็นประตูจริงๆ

 

Scroll to Top